หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟของออสเตรเลียถึงระดับ หายนะ!!

แปลโดย hyjo

   อุณหภูมิของมหาสมุทรที่พุ่งสูงขึ้นจนทำลายสถิติได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก นั่นคือแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟในออสเตรเลีย งานวิจัยใหม่ระบุว่าการฟอกขาวของปะการังในพื้นที่ดังกล่าวได้ถึงระดับ "หายนะ" โดยปะการังมากกว่าครึ่งหนึ่งในพื้นที่ศึกษาใกล้เกาะวันทรีในตอนใต้ของแนวปะการังเสียชีวิตในปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นในช่วง "การฟอกขาวที่รุนแรงและแพร่หลายที่สุด" เท่าที่เคยมีมาในพื้นที่นี้

   ในปี 2024 แนวปะการังเผชิญกับฤดูร้อนที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ อุณหภูมิของมหาสมุทรที่สูงขึ้นจนสร้างสถิติใหม่ได้ทำให้เกิดการฟอกขาวครั้งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เจ็ดของแนวปะการัง ปะการังที่ฟอกขาวจะกลายเป็นสีขาวเนื่องจากคลื่นความร้อนทำให้เกิดความเครียด ส่งผลให้ปะการังขับสาหร่ายซึ่งเป็นแหล่งสีและพลังงานออกจากเนื้อเยื่อ สาเหตุหลักของปัญหานี้คือการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ทำให้โลกร้อนขึ้น นอกจากนี้ การปรากฏตัวของปรากฏการณ์เอลนีโญในปีดังกล่าวยิ่งเร่งให้เกิดความเสียหายต่อปะการังอย่างรวดเร็ว

 

   ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ได้ทำการติดตามปะการัง 462 โคโลนีในบริเวณเกาะวันทรีเป็นเวลา 5 เดือน โดยเริ่มจากเดือนกุมภาพันธ์เมื่อคลื่นความร้อนอยู่ในจุดสูงสุด ผลการศึกษาพบว่าในเดือนพฤษภาคม ปะการัง 370 โคโลนีเกิดการฟอกขาว และเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม 52% ของปะการังที่ฟอกขาวได้เสียชีวิต บางสายพันธุ์มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 95% โดยนักวิจัยยังสังเกตเห็นการล่มสลายของโครงกระดูกปะการังที่ตาย ซึ่งหลุดออกจากแนวปะการังและกลายเป็นเศษซาก

   ปัญหาที่น่าเป็นห่วงอีกประการหนึ่งคือการแพร่ระบาดของโรคในปะการัง โดยปะการังสายพันธุ์ Goniopora ถูกพบว่าติดเชื้อ "โรคแบล็กแบนด์" ซึ่งสามารถทำลายเนื้อเยื่อปะการังและนำไปสู่การตายได้

   โรคแบล็กแบนด์ (Black Band Disease) คือโรคที่เกิดจากจุลินทรีย์หลายชนิด รวมถึงแบคทีเรียที่ผลิตสารพิษ มันสร้างแถบสีดำบนปะการังและทำลายเนื้อเยื่อจนเหลือแต่โครงกระดูกปะการัง มักเกิดในปะการังที่อ่อนแอจากความเครียด เช่น อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น โรคนี้เป็นภัยคุกคามสำคัญต่อแนวปะการังทั่วโลก

 

   มาเรีย เบิร์น หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าการค้นพบนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความจำเป็นในการดำเนินการปกป้องแนวปะการัง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหารและการป้องกันชายฝั่ง พื้นที่ศึกษาซึ่งอยู่ในเขตปกป้องห่างไกลจากการทำเหมืองและการท่องเที่ยวก็ยังไม่สามารถรอดพ้นจากผลกระทบของความร้อนที่รุนแรงได้

   แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 345,000 ตารางกิโลเมตร เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสำคัญทั้งในเชิงนิเวศและเศรษฐกิจ โดยสร้างรายได้ให้กับออสเตรเลียหลายพันล้านดอลลาร์ผ่านการท่องเที่ยว แต่การฟอกขาวครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ปะการังในพื้นที่ที่เคยรอดพ้นจากปัญหานี้มาก่อนก็ยังได้รับผลกระทบ

 

   งานวิจัยชิ้นนี้เน้นย้ำว่าการฟอกขาวได้กลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถี่ขึ้นทุกๆ สองปี ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการระดับโลกอย่างเร่งด่วนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปกป้องแนวปะการัง นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าความยืดหยุ่นของแนวปะการังถูกทดสอบอย่างหนักในช่วงนี้ และจำเป็นต้องมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพทันทีเพื่อรักษาระบบนิเวศอันสำคัญนี้ไว้

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
hyjo's profile


โพสท์โดย: hyjo
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ตึกที่แพงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตประเทศภูมิภาคอาเซียนจังหวัดที่มีอายุน้อยที่สุดในเขตภาคเหนือ เมื่อนับจากปีที่ถูกประกาศจัดตั้งย้อนรอยปี 2525 กรุงเทพฯครบ 200 ปี – ยุคไร้มือถือ อินเทอร์เน็ตยังไม่มา จดหมาย–ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญคือพระเอกชาวดัตช์นับพันประท้วงใหญ่ “ต่อต้านผู้อพยพ” ที่กรุงเฮก ปะทะเดือดตำรวจ – จุดไฟเผารถกลางเมืองเขมรประท้วงการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศของไทยกับพลเมืองของตน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สูตรน้ำมันพริกแบบง่าย..ทานคู่กับอะไรก็อร่อยเป็กกี้ ศรีธัญญา เปิดรักครั้งใหม่ ห่าง 7 ปีกลุ่มชาติพันธุ์โส้
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ดาราดัง "คิมยูจอง" กำลังคบกับ "คิมดูฮุน" หลังมีคนพบว่าพวกเขากำลังเดทกันชายไต้หวันดื่มน้ำผลไม้มากจนเป็นมะเร็งตับเกิดเหตุต้นไม้ล้มทับคน หน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินฮ่องกงออสเตรเลียคาด "ชาวแคนาดา 1 ล้านคน จะป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม ภายในปี 2030"
ตั้งกระทู้ใหม่