ทรัมป์ขู่จีน เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 10% เริ่มต้น 1 ก.พ. นี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำเตือนเมื่อวันอังคารว่าจะมีการเพิ่มภาษีศุลกากรมากขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยครั้งนี้เป้าหมายคือจีน ซึ่งทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มสำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ
ในการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งสะท้อนถึงคำพูดที่เขากล่าวเมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ระบุว่าเขากำลังพิจารณาการเก็บภาษีศุลกากร 10% สำหรับสินค้าจากจีนทั้งหมด โดยจะเริ่มต้นเร็วที่สุดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ ทรัมป์ขู่เก็บภาษี 25% สำหรับเม็กซิโกและแคนาดา แต่ยังไม่ได้ระบุถึงจีนชัดเจน โดยกล่าวว่าอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงรักษาภาษีที่ทรัมป์เคยกำหนดไว้ในสมัยรัฐบาลแรกของเขา
ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ทรัมป์เปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงหาเสียงเขาเคยให้คำมั่นว่าจะเก็บภาษีสูงสุดถึง 60% สำหรับสินค้าจากจีนทั้งหมด ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ปริมาณเฟนทานิลที่ลักลอบเข้ามาในสหรัฐฯ จากจีนผ่านทางเม็กซิโกและแคนาดาเป็นปัญหาที่ใหญ่ และการข่มขู่ด้วยภาษีอาจช่วยให้จีนปราบปรามยาเสพติดอันตรายนี้
“ผมได้พูดกับประธานาธิบดีสี (จิ้นผิง) ของจีนเมื่อวันก่อน ผมบอกว่าเราไม่ต้องการให้ยาอันตรายนี้เข้ามาในประเทศเรา เราต้องหยุดมัน” ทรัมป์กล่าว
“เรากำลังพูดถึงภาษี 10% สำหรับจีน เพราะพวกเขากำลังส่งเฟนทานิลผ่านเม็กซิโกและแคนาดาเข้ามา”
ทรัมป์ยังกล่าวซ้ำว่าครั้งหนึ่งในสมัยแรกของเขา เขามีข้อตกลงกับประธานาธิบดีสีที่จีนตกลงจะใช้โทษประหารชีวิตกับผู้ค้ายาเสพติดที่ลักลอบส่งยาเข้าสหรัฐฯ แต่เขากล่าวว่าไบเดนล้มเหลวในการสานต่อข้อเสนอนี้
เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ได้ออกคำสั่งบริหารให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง รวมถึงผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ทำการสอบสวนสาเหตุของการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ โดยสั่งให้พิจารณาวิธีสร้าง "หน่วยงานจัดเก็บภาษีภายนอก" เพื่อจัดเก็บภาษี และระบุถึงการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงทบทวนข้อตกลงการค้าที่มีอยู่เพื่อปรับปรุง
อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้ไม่ได้ระบุถึงการเพิ่มภาษีโดยตรง ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทรัมป์เคยเสนอภาษีศุลกากรในอัตราสูงสุดถึง 20% สำหรับสินค้าจากทุกประเทศ 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และ 60% สำหรับสินค้าจากจีน เขายังเคยเสนอใช้ภาษีเป็นเครื่องมือเจรจากับประเทศอื่น ๆ เช่น เดนมาร์ก เพื่อกดดันให้ประเทศยุโรปนี้ส่งมอบกรีนแลนด์ให้กับสหรัฐฯ (เขายังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะใช้กองทัพเพื่อเข้ายึดกรีนแลนด์)
การเลื่อนการขึ้นภาษีครั้งนี้ทำให้นักลงทุนยิ้มออก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นกว่า 500 จุดในวันอังคาร ทั้งนี้ วอลล์สตรีทส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับภาษีศุลกากร เพราะผู้นำเข้าสินค้าชาวอเมริกันเป็นผู้จ่ายภาษีที่ท่าเรือ และต้นทุนดังกล่าวมักถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคและธุรกิจ ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลเมื่อสหรัฐฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเงินเฟ้อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจของทรัมป์ยังคงถกเถียงเกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดในการใช้ภาษี โดยเจ้าหน้าที่ที่สนใจตลาด เช่น สก็อตต์ เบสเซนต์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเควิน แฮสเซตต์ ผู้นำสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ สนับสนุนวิธีที่นุ่มนวลกว่า ขณะที่ผู้สนับสนุนภาษีอย่างปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้าของทำเนียบขาว และโฮเวิร์ด ลัตนิค ว่าที่รัฐมนตรีพาณิชย์ เรียกร้องให้ใช้มาตรการอย่างเด็ดขาดเพื่อส่งข้อความที่ทรัมป์ต้องการ
ทรัมป์ยังได้โทรหาพันธมิตรในสภาคองเกรสเพื่อรวบรวมการสนับสนุนสำหรับภาษีศุลกากร แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายเฉพาะ แต่คำพูดที่ทรัมป์กล่าวออกมาอาจเป็นการกดดันให้ฝ่ายต่าง ๆ ดำเนินการตามนโยบายนี้