ญาติของไรเดอร์เหยื่อที่โดนโจ๋รุมแทง เปิดศึกกับญาติผู้ก่อเหตุหน้าโรงพัก จากปมคำพูดที่ทำให้สะเทือนใจ
เหตุเกิดที่ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อวานนี้ (13 มกราคม 2568) ครอบครัวผู้เสียชีวิตและญาติของผู้ก่อเหตุปะทะกัน ขณะที่ครอบครัวของผู้ก่อเหตุเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมอบตัวในคดีทำร้ายร่างกายไรเดอร์ อายุ 22 ปีจนเสียชีวิต
หลังจากการสอบปากคำเสร็จสิ้น ครอบครัวของผู้ก่อเหตุได้เดินลงมาจากห้องสอบสวนเพื่อสูบบุหรี่ ขณะที่เดินผ่านร้านกาแฟในโรงพัก ซึ่งเป็นจุดที่ญาติของผู้เสียชีวิตกำลังนั่งอยู่ ด้านญาติของผู้เสียชีวิตได้ตะโกนถามถึงคำพูดก่อนหน้านี้ที่พี่สาวของผู้ก่อเหตุเคยพูดว่า ก็หลานมึงตายไปแล้ว ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมาก พร้อมคิดว่าญาติผู้ก่อเหตุเดินผ่านเพื่อเป็นการเยาะเย้ยและไม่ยอมกล่าวขอโทษสักคำ
จากนั้นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เดินเข้าไปจิกผมพี่สาวของผู้ก่อเหตุจนเกิดเหตุชุลมุน ญาติทั้งสองฝ่ายพยายามเข้าห้ามปราม ขณะที่ตาของผู้เสียชีวิต เข้ากล่อมให้สงบสติอารมณ์ หลังเหตุการณ์สงบ แม่ของผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามากราบขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งน้ำตา พร้อมขอโทษที่ลูกสาวของเธอพูดจาไม่เหมาะสม
โดยระบุว่าเธอเองไม่เคยสอนให้ลูกพูดเช่นนั้น แต่เพราะลูกสาวยังเป็นวัยรุ่น ด้านตาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า การกระทำของครอบครัวผู้ก่อเหตุและคำพูดที่ว่า "คนตายไปแล้วจะให้ทำอะไรได้" ทำให้เขาและญาติไม่สามารถระงับความโกรธได้ เขาเล่าว่า ครอบครัวของเขาไม่เพียงสูญเสียหลานชายที่รัก แต่ยังสูญเสียพ่อของเด็กที่ยังไม่ลืมตาดูโลก
รวมถึงความฝันที่จะเห็นหลานชายได้บวชอีกด้วยในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งตนได้เตรียมของไว้หมดแล้ว ตอนนี้คือ เราเสียไปสามอย่าง ไม่มีคำขอโทษจากใจจริง พูดแบบนี้มันแรงเกินไป แม้จะโกรธ แต่ก็พยายามพูดคุยกับแม่ของผู้ก่อเหตุให้สงบลง และขอเพียงคำขอโทษจริงใจ เพื่อยุติความบาดหมาง พร้อมทั้งกล่าวว่า เข้าใจความผิดพลาดของวัยรุ่น
แต่ต้องการให้ผู้ใหญ่ของครอบครัวอบรมลูกหลานให้รู้จักรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น หลังการพูดคุย เด็กวัยรุ่นในครอบครัวผู้ก่อเหตุได้มากราบขอโทษ โดยยอมรับว่าคำพูดที่หลุดออกไปนั้นรุนแรงเกินไป ตนอยากให้จบกันด้วยดี ขอโทษที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทั้งที่รับปากผู้ใหญ่และตำรวจไว้ว่าจะไม่มีการกระทบกระทั่งกันอีก