เพจดังแฉ! คนไทยร่วงตึก 18 ชั้น ปอยเปต ติดกับฐานที่มั่นแก๊งคอลฯ 25 ชั้น
คนไทยตกตึก 18 ชั้นในปอยเปต เปิดเบื้องหลังฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง Drama-addict ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ซึ่งแสดงให้เห็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญของชายชาวไทยที่ตกจากตึกสูง 18 ชั้นในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา จนเสียชีวิต โดยเพจดังกล่าวระบุว่าตึกนี้เป็นสถานที่ตั้งของ คาสิโนและฐานที่มั่นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีรายงานว่า มีคนไทยจำนวนมากถูกหลอกไปทำงานในสถานที่ดังกล่าว และเกิดเหตุการณ์คนไทยตกตึกเสียชีวิตในลักษณะเดียวกันนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จากภาพที่ถูกเผยแพร่ในคลิปวงจรปิด พบว่าผู้เสียชีวิตมีลักษณะคล้ายกำลังวิ่งหนีใครบางคนจากบริเวณชั้น 14 ของอาคาร ก่อนพยายามปีนเกาะระเบียงเพื่อหลบหนี แต่กลับพลัดตกลงมาเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งในช่วงเวลาที่ชายไทยตกลงมา ยังปรากฏร่างบุคคลปริศนาอยู่บริเวณเดียวกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นการฆาตกรรม หรือมีการบังคับให้ผู้ตายกระโดดลงมา
ตึก 18 ชั้นที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ในเมืองปอยเปต ใกล้กับ ตึก 25 ชั้น ที่ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในฐานบัญชาการหลักของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวถึงตึก 25 ชั้นนี้ว่าเป็นสถานที่ที่มีการดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ ไปจนถึงการค้ายาเสพติด
Drama-addict ยังระบุว่า ทั้งตึก 18 ชั้นและตึก 25 ชั้น ทำหน้าที่เป็นฐานปฏิบัติการสำคัญของขบวนการเหล่านี้ โดยเฉพาะการหลอกลวงคนไทยให้มาทำงานที่นี่ ก่อนถูกบังคับให้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือถูกกักขังหากปฏิเสธการทำงาน
เหตุการณ์คนไทยตกตึกในปอยเปตไม่ใช่เรื่องใหม่ มีรายงานว่ามีคนไทยตกตึกเสียชีวิตในลักษณะเดียวกันหลายสิบคนแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยทุกครั้งมักเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ดำเนินกิจกรรมในตึกเหล่านี้
นักวิเคราะห์และสื่อมวลชนต่างตั้งข้อสงสัยว่า การเสียชีวิตเหล่านี้อาจเป็นผลมาจากความพยายามหลบหนีของเหยื่อที่ถูกหลอกมาทำงาน หรืออาจเป็นการลงโทษจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกรณีที่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมทำงานตามคำสั่ง
ปอยเปต เมืองชายแดนของกัมพูชา ถูกระบุว่าเป็นแหล่งรวมของกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีเครือข่ายครอบคลุมหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย กิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้จำกัดเพียงการหลอกลวงทางโทรศัพท์ แต่ยังครอบคลุมไปถึงการพนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับทางการกัมพูชาในการปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของเครือข่ายข้ามชาติ และการที่ปอยเปตเป็นพื้นที่นอกเหนืออำนาจของกฎหมายไทย ทำให้การปราบปรามยังคงเป็นเรื่องท้าทาย
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้กระตุ้นให้สังคมไทยเรียกร้องให้มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการป้องกันการหลอกลวงและการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ข้อมูลแก่ประชาชนเกี่ยวกับกลลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ