ตำรวจบุกทลายเหมืองบิตคอยน์ที่พนัสนิคม แอบใช้ไฟหลวงจนเสียหายหลายร้อยล้านบาท

    เรื่องการขโมยไฟหลวงใช้นี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาในวันนี้ (9 มกราคม 2568) หลังจาก พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุกสิ สว.กก.5 บก.ป. ร่วมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้น บริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.11 ต.นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี หลังสืบพบว่าดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขโมยกระแสไฟฟ้านำมาใช้ในกิจการ การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ทราบว่า บริษัทดังกล่าวประกอบกิจการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

แต่กลับมีพฤติกรรมดัดแปลงมิเตอร์หม้อไฟฟ้า เพื่อลักลอบต่อใช้กระแสไฟฟ้าหลวงเพื่อประกอบกิจการเหมืองขุดบิตคอยน์ขนาดใหญ่ เป็นการประหยัดต้นทุน เนื่องจากการทำเหมืองบิตคอยน์ ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก มีต้นทุนที่สูง จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบบริษัทดังกล่าวติดตั้งหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีการดัดแปลงเพื่อลักใช้ไฟหลวงจริง

โดยติดตั้งแผงพลังงานโซลาร์เซลล์ เพื่ออำพรางให้ดูเชื่อว่ามีการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์เข้ามาช่วย แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีการเชื่อมต่อสายไฟจากแผงโซลาร์เซลล์เข้ากับเครื่องขุดบิตคอยน์แต่อย่างใด จากการสอบสวนพนักงานดูแลเหมืองขุดบิตคอยน์ดังกล่าวยังยอมรับว่า จะมีการลักลอบใช้ไฟหลวงเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันจะใช้ไฟฟ้าปกติ

เพื่อไม้ให้เป็นที่ผิดสังเกต เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเพื่อประเมินมูลค่าความเสียหายจากกระแสไฟฟ้าที่ถูกขโมยใช้ พบว่า ความเสียหายอยู่ที่หลายร้อยล้านบาท จึงตรวจยึดเครื่องขุดบิตคอยน์ และ อุปกรณ์ต่างๆจำนวน 17 รายการ รวม 996 เครื่อง ไว้เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับเจ้าของบริษัทและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป