สาวร้อง!สามีถูกกระสุนปริศนาเจาะโหนกแก้มเจ็บสาหัส คดีไม่คืบ แถมถูกออกจากงาน
กรณีเมืีอวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ร.ต.อ.ประภาส ประภาส สมศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่หน้าบ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 ต.บางพระ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สิชา พูลวงศ์ ผกก.,พ.ต.ท.ธนกร แก้วถาวร รอง ผกก.สส.,กำลังตำรวจชุดสืบสวนและจนท.กู้ภัยกู้ชีพเทศบาลตำบลบางพระ ไปที่เกิดเหตุ พบคนเจ็บชื่อนายอานนท์ จันทร์สุวรรณ อายุ 35 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกปรายขนาด.22 เข้าโหนกแก้วขวา 1 นัด กระสุนฝังใน จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลปากพนังแต่สาหัสจึงส่งต่อโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2567 นางสาวณัชา พรหมจรรย์ อายุ 27 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ ร้องกับสื่อมวลชน ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุเดือนมิถุนายน ผ่านมาเกือบ 7 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทางตำรวจยังจับคนก่อเหตุไม่ได้ ส่วนอาการบาดเจ็บของสามี โรงพยาบาลปากพนังแจ้งว่าสามีถูกกระสุนปืนเจาะบริเวณโหนกแก้มข้างขวา จึงส่งตัวโรงพยาบาลมหาราช หลังเอกซเรย์พบหัวกระสุนปืนฝังลำคอใต้หูข้างขวาต้องผ่าตัด จึงส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยแพทย์วินิจฉัยระบุว่ากระสุนตัดเส้นเลือดใหญ่ทำให้เสียเลือดมาก จึงเกิดอาการสมองบวม ต้องอุดหลอดเลือดโดยการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ ระบายเลือดที่คั่งในสมองออก แต่เนื่องจากขาดเลือดเป็นระยะเวลานาน กล้ามเนื้อซีกซ้ายจึงอ่อนแรงเคลื่อนไหวไม่ได้และยังมีอาการวูบ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้กลายเป็นเจ้าชายนิทรา
นางสณัฐชา เล่าอีกว่า แม้ว่าแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว แต่ยังไม่สามารถกินอาหารได้เอง ต้องกินอาหารเหลวผ่านสายยาง โดย แพทย์เจาะลำคอให้อาหารทางสายยาง และดูดน้ำลายและเสมะ พูดและไม่ได้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ตนและลูกสาว อายุ 4 ขวบ เดือดร้อนลำบากอย่างมาก เพราะไม่มีรายได้ใด ๆ เลย ก่อนเกิดเหตุนายอดุลย์ สามี เพิ่งต่อสัญญาพนักงานราชการ กับกรมเจ้าท่า ตำแหน่งช่างขุดลอก
แต่ล่าสุดกรมเจ้าท่า แจ้งว่าสามีขาดงานตามระเบียบทางราชการ จึงต้องให้ออกจากราชการ ตอนนี้ยังพอมีเงินที่ได้รับการช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่อนาคต ตนและบุตรสาว รวมทั้งสามี ไม่รู้จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร
ส่วนความคืบหน้าทางคดี เมื่อสอบถามทางตำรวจ สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ก็แจ้งว่า คดีไม่มีความคืบหน้าใด ๆไม่รู้คนร้ายเป็นใครไม่มีพยานหลักฐานใด ๆ ที่พอจะเอาผิดใครได้ โดยตั้งแต่ตอนเกิดเหตุตำรวจมาตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ และตรวจสอบตรวจค้นภายในบ้านตนอย่างละเอียด รวมทั้งสอบปากคำทุกคนที่อยู่ในบ้าน แต่ไม่มีการตรวจสอบบริเวณข้างเคียง เพื่อดูวิถีกระสุนมาจากทิศทางใด โดยเฉพาะบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการจัดงานบวชนาค ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวนสอบสวนใด ๆ ตนรู้สึกเหมือนว่าตำรวจไม่ได้ทำงานเพื่อไขปริศนาในคดี หรือสอบสวนสืบสวนติดตามที่มาที่ไปของกระสุนปริศนาหรือหาตัวคนร้ายในคดีนี้อย่างเต็มที่ จึงขอกราบวิงวอน สื่อมวลชน ฯ ช่วยประสานงานติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ ให้ด้วย อย่าปล่อยให สามีของตนและครอบครัวตนต้องรับชะตากรรมฟรี ๆ แบบนี้เลย "