สุดอึ้ง! ลูกกอริลลา สัตว์เลี้ยงเศรษฐี ราคาแรง เจ้าของฟาร์มล่องหน
จับลูกกอริลลาลักลอบส่งออก! เผยขบวนการค้าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เชื่อมโยงไทย-ตุรกี ราคาซื้อขายสูงถึง 70 ล้านบาท
เหตุการณ์สุดสะเทือนใจที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตรวจพบและยึด “ลูกกอริลลา” ซึ่งถูกขังอยู่ในลังไม้ระหว่างการลักลอบขนส่งจากประเทศไนจีเรีย ปลายทางประเทศไทย
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่สนามบินอิสตันบูลได้ทำการตรวจสอบสินค้าบนเที่ยวบินจากประเทศไนจีเรีย พบลังไม้ต้องสงสัยที่ภายในมี "ลูกกอริลลา" สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ถูกขังอยู่ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการยึดของกลางและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากการตรวจสอบพบว่าลังไม้ดังกล่าวมีปลายทางไปยังกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ต่อมาศาลตุรกีอนุมัติหมายค้นให้เจ้าหน้าที่บุกตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ประเทศไทย ซึ่งเป็นปลายทางที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่านี้
พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นพื้นที่ในตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่เชื่อมโยงกับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ถูกสงสัย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการนัดหมายให้เจ้าของฟาร์มมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลในประเด็นต่างๆ แต่เมื่อถึงวันนัดหมาย เจ้าของฟาร์มกลับไม่ปรากฏตัวและปิดโทรศัพท์มือถือ ทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนพบข้อพิรุธหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องกล่องบรรจุกระต่ายที่อ้างว่านำเข้ามาและถูกทำลายไปแล้ว
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า กล่องบรรจุกระต่ายที่นำเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 2 กล่อง อาจถูกใช้เป็นช่องทางในการลักลอบเพิ่มเป็น 3 กล่อง ซึ่งรวมถึงกล่องบรรจุลูกกอริลลาที่ตรวจพบในตุรกี
ในขณะนี้ ตำรวจไทยยังไม่สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของฟาร์มได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรมและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงรอผลการดำเนินคดีทางกฎหมายจากประเทศต้นทาง หากประเทศต้นทางดำเนินการ เจ้าหน้าที่ไทยก็สามารถใช้ข้อมูลนั้นเพื่อดำเนินคดีในประเทศไทยได้เช่นกัน
รายงานข่าวระบุว่า ลูกกอริลลาที่ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย มีมูลค่าซื้อขายในตลาดมืดสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอายุของลูกกอริลลาและความยากง่ายในการลักลอบนำเข้า
ปัจจุบัน กอริลลาในแอฟริกาเหลือเพียงไม่กี่ร้อยตัวเท่านั้น ทำให้พวกมันเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง และการลักลอบค้ากอริลลาถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของการลักลอบค้าสัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างลูกกอริลลา ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ แต่ยังเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ประเทศไทยในฐานะประเทศปลายทางจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น การเพิ่มจุดตรวจสอบสินค้าในสนามบิน การตรวจสอบเอกสารการนำเข้าสัตว์ และการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ