สรุปครบจบใน 6 ชม.! ไทม์ไลน์ดราม่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กับกฎอัยการศึก

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เกาหลีใต้เผชิญเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อ ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหันในเวลา 22.20 น. ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยให้เหตุผลว่าเป็นมาตรการป้องกันภัยคุกคามจากกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ รวมถึงเพื่อจัดการกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลภายในประเทศ การตัดสินใจครั้งนี้นำมาซึ่งความชุลมุนและแรงต่อต้านจากทั้งประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่ต่างร่วมกันเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย จนนำไปสู่การยกเลิกกฎอัยการศึกในที่สุด

ภาพจาก HANDOUT / South Korean Presidential Office / AFP

การประกาศกฎอัยการศึกของยุนซอกยอลในค่ำคืนนั้นสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนอย่างมาก โดยทันทีที่ประกาศ ผู้คนจำนวนมากพากันไปชุมนุมประท้วงด้านนอกรัฐสภา พร้อมตะโกนแสดงความไม่พอใจ นอกจากนี้ กองทัพยังเคลื่อนกำลังทหารเข้าปิดล้อมอาคารรัฐสภา เพื่อป้องกันไม่ให้ ส.ส. เข้าไปดำเนินการประชุมได้ ขณะที่มีการส่งเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนในกรุงโซล เพิ่มบรรยากาศตึงเครียด

แม้จะมีกองกำลังทหารปิดกั้น แต่ประชาชนที่มาชุมนุมได้ช่วยเหลือให้ ส.ส. บางส่วนสามารถฝ่าแนวกั้นเข้าไปในรัฐสภาได้ หนึ่งในนั้นคือ อี แจ-มยอง ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ใช้วิธีไลฟ์ผ่าน YouTube ขณะปีนรั้วข้ามเข้าไปในอาคาร เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกับประชาชน การกระทำของเขาสร้างแรงกระเพื่อมอย่างมากในสังคมและทำให้การต่อต้านรัฐบาลทวีความเข้มข้นขึ้น

ในที่สุด ประธานรัฐสภาสามารถเปิดการประชุมฉุกเฉินได้สำเร็จ โดยมี ส.ส. จำนวน 190 คน จากทั้งหมด 300 คน เข้าร่วมการประชุม แม้จะเป็นการประชุมที่จัดขึ้นท่ามกลางการปิดล้อมของทหาร แต่ที่ประชุมได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในเวลา 00.30 น. หรือเพียง 2 ชั่วโมงหลังการประกาศกฎอัยการศึกของยุนซอกยอล

แม้รัฐสภาจะมีมติยกเลิกกฎอัยการศึก แต่กฎดังกล่าวยังไม่ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการจนกว่าประธานาธิบดีจะออกมาประกาศด้วยตนเอง ประชาชนที่ชุมนุมอยู่ด้านนอกรัฐสภาจึงเพิ่มแรงกดดันมากขึ้น โดยมีผู้ชุมนุมจำนวนมากปักหลักอยู่ตลอดทั้งคืน พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีรับฟังเสียงของรัฐสภาและประชาชน ในขณะเดียวกัน การที่มติของรัฐสภาไม่ได้รับการปฏิบัติทันที ยังทำให้มีการพูดถึงความเป็นไปได้ในการถอดถอนประธานาธิบดี หากเขาไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

ช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 04.00 น. ยุนซอกยอลออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก พร้อมทั้งระบุว่า “เมื่อช่วงที่ผ่านมานี้ รัฐสภาได้เรียกร้องให้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน และเราได้ถอนกำลังทหารที่ประจำการเพื่อปฏิบัติการกฎอัยการศึกออกไปแล้ว เราจะรับคำร้องของรัฐสภาและยกเลิกกฎอัยการศึกผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรี”

ในเวลา 04.30 น. คณะรัฐมนตรีเกาหลีใต้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกกฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการ สถานการณ์จึงยุติลงภายในระยะเวลา 6 ชั่วโมงนับตั้งแต่การประกาศแรกเริ่ม

เมื่อการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกเสร็จสิ้น กลุ่มผู้ชุมนุมที่รอคอยอยู่ด้านนอกรัฐสภาต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี มีประชาชนบางส่วนตะโกนว่า “เราชนะแล้ว!” พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุนซอกยอลลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามเพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองของเขา ท่ามกลางความอ่อนแอของรัฐบาลที่เผชิญกับปัญหาความไม่พอใจจากประชาชนและฝ่ายค้าน

การประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ โดยครั้งล่าสุดที่กฎอัยการศึกถูกนำมาใช้คือในปี 2522 หลังการลอบสังหาร ปาร์คจุงฮี ผู้นำทหารในช่วงรัฐประหาร การนำกฎอัยการศึกกลับมาใช้อีกครั้งในปี 2567 สร้างความตกตะลึงให้กับประชาคมโลกและนำไปสู่การตั้งคำถามถึงแรงจูงใจของยุนซอกยอล

หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่แท้จริงอาจเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในประเทศมากกว่าภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลของยุนซอกยอลเผชิญกับปัญหาคอร์รัปชันและข้อกล่าวหาหลายประการ รวมถึงกรณีภรรยาของเขาที่ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังเสนอให้ลดงบประมาณของรัฐบาล และเรียกร้องให้ถอดถอนสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่ล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่