เปิดอาณาจักร "เต้ บรม พิจารณ์จิตร" ทายาทจิราธิวัฒน์ ผู้อยู่เบื้องหลังเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
เต้ บรม พิจารณ์จิตร ถือเป็นหนึ่งในทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล จิราธิวัฒน์ เจ้าของและผู้บริหารธุรกิจในกลุ่ม เซ็นทรัลกรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย โดยเขามีบทบาทสำคัญในหลายๆ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังมีบทบาทเป็นผู้บริหารในศูนย์การค้า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เต้ยังเป็นผู้ก่อตั้ง SIWILAI แบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่รวบรวมสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งได้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นหัวเรือหลักในการปรับโฉม เซ็นทรัลชิดลม ให้ทันสมัยและตอบโจทย์กับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่
จากข้อมูลที่ตรวจสอบจาก Creden Data และฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เต้ บรม พิจารณ์จิตรมีบทบาทสำคัญในหลายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภท ทั้งในด้านอาหารและเครื่องดื่ม การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการบริหารจัดการธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง โดยเต้เป็นกรรมการบริษัทใน 8 บริษัท และถือหุ้นใน 21 รายการ โดยรวมมูลค่าหุ้นทั้งหมดประมาณ 160,820,206 บาท แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและการกระจายความเสี่ยงในหลายๆ ธุรกิจของเขา
ธุรกิจที่เต้ บรม พิจารณ์จิตร มีส่วนร่วมสำคัญ
1. บริษัท ชุนกะ จำกัด
บริษัท ชุนกะ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2555 โดย เต้ บรม พิจารณ์จิตร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และถือหุ้นจำนวน 2,700 หุ้น (คิดเป็น 9%) มูลค่าหุ้น 2,693,743 บาท บริษัทดำเนินธุรกิจในด้านการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มประเภท อาหารญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทในปี 2564 อยู่ที่ 107,521,156 บาท กำไร 942,825 บาท ขณะที่ในปี 2565 บริษัทมีรายได้ 139,251,695 บาท และกำไร 873,356 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตในระดับที่ดีในธุรกิจนี้ แม้ว่าจะมีการลดลงเล็กน้อยในกำไรจากปีที่แล้ว แต่ยังคงมีผลประกอบการที่มั่นคง ในปี 2566 บริษัทมีรายได้ 104,030,702 บาท กำไร 706,847 บาท และมีทรัพย์สินรวม 30,163,654 บาท หนี้สินรวม 233,181 บาท
2. บริษัท สวิมเมอร์ จำกัด
บริษัท สวิมเมอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 โดยเต้ บรม พิจารณ์จิตรมีบทบาทเป็นกรรมการบริษัท และถือหุ้นจำนวน 6,000 หุ้น (60%) มูลค่าหุ้น 576,462 บาท บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจด้านการบริการอาหารในภัตตาคารและร้านอาหาร แม้ว่าบริษัทนี้จะประสบปัญหาขาดทุนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยรายได้ของบริษัทในปี 2564 และ 2565 เป็น 0 บาท แต่ในปี 2566 บริษัทมีรายได้ 0 บาท และขาดทุน 10,180 บาท ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายในธุรกิจอาหารที่มีการแข่งขันสูง
3. บริษัท สิยวริญญ์ เรสซิเด้นซ์ จำกัด
บริษัท สิยวริญญ์ เรสซิเด้นซ์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2560 โดยเต้ บรม พิจารณ์จิตรถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น (20%) มูลค่าหุ้น 19,741,871 บาท บริษัทดำเนินธุรกิจในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 7 บาท ขาดทุน 15,173 บาท ในปี 2565 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 9 บาท แต่ขาดทุน 28,241 บาท และในปี 2566 มีรายได้ 25 บาท และขาดทุน 844,606 บาท โดยในปี 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 378,028,183 บาท และหนี้สินรวม 279,318,830 บาท
4. บริษัท องุ่นทอง จำกัด
บริษัท องุ่นทอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 โดยเต้ บรม พิจารณ์จิตรเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้น 10,200 หุ้น (34%) มูลค่าหุ้น -89,093 บาท บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งไวน์ เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อื่นๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยม แต่ยังคงประสบปัญหาขาดทุนในปีที่ผ่านมา โดยรายได้ในปี 2564 เป็น 0 บาท ขาดทุน 38,510 บาท และในปี 2565 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 280 บาท แต่ยังคงขาดทุน 828,528 บาท ขณะที่ในปี 2566 บริษัทมีรายได้ 360,546 บาท ขาดทุน 2,395,000 บาท
บทบาทของเต้ บรม พิจารณ์จิตรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
เต้ บรม พิจารณ์จิตรยังมีส่วนร่วมในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ที่สำคัญ โดยดำเนินธุรกิจ ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง รวมถึง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความสามารถในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่สำคัญสำหรับกลุ่ม เซ็นทรัลกรุ๊ป ที่มีการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่หลายโครงการ
อ้างอิงจาก: Creden Data