ชายชาวเวียดนามอุทิศเวลา 30 ปีเพื่อช่วยเหลือเด็กเร่ร่อน

     ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเด็กเพื่อการพัฒนา ถือเป็นข้อกังวลหลักของกฎหมายระหว่างประเทศ  เช่นเดียวกับกฎหมายของเวียดนาม โดยบุคคลและองค์กรจำนวนมาก มีส่วนสนับสนุนเชิงบวกต่อการดูแล การศึกษา และ การคุ้มครองเด็กๆ และ หนึ่งในนั้นคือผู้เชี่ยวชาญด้านงานสังคมสงเคราะห์ "เจิ่น มิน ไฮ" ด้วยความปรารถนาที่จะปกป้องสิทธิเด็ก ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา "เจิ่น มิน ไฮ" ได้เดินทางทั่วประเทศเวียดนาม และ เดินทางไป 27 ประเทศทั่วโลก เพื่อเรียนรู้ ค้นคว้า และ นำแนวปฏิบัติที่ดีสำหรับเด็กๆมาใช้...

     "เจิ่น มิน ไฮ" เริ่มงานสนับสนุนและปกป้องสิทธิเด็ก หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย ในปีนั้น หลังจากที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่าน เขาก็อยู่ที่นครโฮจิมินห์ โดยทำงานและเรียนหนังสือ เพื่อสอบไปด้วย หลังจากนั้นเขาเริ่มงานเพื่อการดูแล ให้การศึกษา และ คุ้มครองเด็กๆ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในช่วงนี้ เขามักจะเดินเตร่ไปตามท้องถนน เพื่อเรียนรู้และสำรวจชีวิตของคนในท้องถิ่น จากการออกไปครั้งนี้ เขาได้พบเห็นและสังเกตเด็กเร่ร่อน และ พบว่าเขารู้สึกเห็นอกเห็นใจพวกเด็กๆมาก

     วันหนึ่ง ในขณะที่ "เจิ่น มิน ไฮ" กำลังแกะห่อกระดาษหนังสือพิมพ์เก่า ที่ห่อด้วยถุงข้าวเหนียวอยู่ "เจิ่น มิน ไฮ" ก็สะดุดตากับข้อความบางข้อความ มันเป็นประกาศรับสมัครครูสอนข้างถนน ในโครงการที่ดำเนินการโดย องค์กรนอกภาครัฐของสวิส เขาเกิดความอยากรู้อยากเห็น และ รู้สึกผูกพันกับงานนี้ จึงได้สมัครโดยเขียนจดหมาย หลังจากผ่านการสัมภาษณ์ ซึ่งเขาพบกับความท้าทายหลายรอบ เขาก็ได้รับการว่าจ้างจากองค์กรนี้ และ เมื่อเขาได้รับการว่าจ้างแล้ว  "เจิ่น มิน ไฮ" ก็ใช้เวลาเกือบทั้งหมด อยู่บนท้องถนน...

     ตั้งแต่ปี 1993-1997 "เจิ่น มิน ไฮ" ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมงานสังคมสงเคราะห์ ในขณะเดียวกันก็ศึกษาวิชาสตรีศึกษา ซึ่งเป็นหลักสูตรปูทางไปสู่การทำงาน ด้านสังคมสงเคราะห์ในเวียดนาม ที่มหาวิทยาลัยเปิดนครโฮจิมินห์ ในช่วงเวลานี้ "เจิ่น มิน ไฮ" แบ่งเวลาเรียนไปพร้อมกับการพบปะ และ ทำงานร่วมกับเด็กเร่ร่อนในตลาดต่างๆ "เจิ่น มิน ไฮ" ได้พบปะพูดคุยกับเด็กเร่ร่อน และ สมาชิกแก๊งจำนวนมาก จนชุมชนตั้งฉายาให้เขาว่า "เก๊าม่วย" ด้วยพรสวรรค์ในการสื่อสารและทัศนคติที่อบอุ่น เขาได้รับความไว้วางใจ จากเด็กเร่ร่อนอย่างรวดเร็ว...

     "เจิ่น มิน ไฮ" กล่าวว่า "เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเด็กเร่ร่อน ผมจะเน้นที่จุดแข็งและลักษณะนิสัยเชิงบวก ผมมองพวกเขาในฐานะปัจเจกบุคคล โดยไม่ยึดติดกับอดีต และ ไม่มองพวกเขาในเชิงลบ"

     ในปี 2000 "เจิ่น มิน ไฮ" ได้รับทุนการศึกษา เพื่อเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมพัฒนาชุมชน เป็นเวลา 3 เดือน ที่สถาบันสังคมแห่งเอเชีย ในประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากที่เขาจบหลักสูตร เขากลับมายังเวียดนาม โดยรับบทบาทเป็นหัวหน้าศูนย์พักพิง และ ดูแลโครงการต่างๆมากมาย สำหรับเด็กเร่ร่อนในนครโฮจิมินห์ ในช่วงเวลานี้ "เจิ่น มิน ไฮ" ยังได้เริ่มสอนหลักสูตรทักษะทางสังคมทั่วประเทศอีกด้วย

     "เจิ่น มิน ไฮ" กล่าวอีกว่า "ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการ สังเกตพฤติกรรมของพวกเด็กๆ" และ "เมื่อผมเข้าใจกิจวัตรประจำวันของพวกเด็กๆแล้ว ผมมักจะรอจนดึกดื่น ถึงจะเข้าไปหาพวกเด็กๆ" และ "หลังจากการพบกัน 2-3 ครั้ง ผมก็จะค่อยๆผูกมิตรกับเด็กเร่ร่อน" และ "เมื่อผมได้รับความไว้วางใจจากพวกเขาแล้ว ผมก็แนะนำพวกเขาอย่างอ่อนโยน ถึงแนวคิดในการเข้าร่วมสถานพักพิง หรือ ชมรมที่สนับสนุนเด็กเร่ร่อน..."

     ปัจจุบัน "เจิ่น มิน ไฮ" ได้กล่าวว่า "ผมมีความสุขมากขึ้น เมื่อรู้ว่าเด็กๆหลายคน ที่ผมเคยช่วยเหลือ สามารถช่วยเหลือและดูแลคนอื่นๆ ที่เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้..."