ประเพณีฝังหญิงสาวที่มีชีวิตในสมัยจีนโบราณ
ในประวัติศาสตร์ของจีน การฝังศพแบบมีชีวิตหรือการฝังศพของหญิงสาวที่เป็นสนม ถือเป็นหนึ่งในประเพณีที่น่าสะพรึงกลัวและเต็มไปด้วยความเศร้าโศก สังคมโบราณมักมีความเชื่อว่าการฝังศพของผู้หญิงที่มีสถานะสูง เช่น สนม จะทำให้เจ้าของสามารถใช้ชีวิตต่อไปในโลกหน้าได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของนั้นไม่ได้มีบุตรที่จะสืบทอดตระกูล
การฝังศพแบบมีชีวิตนี้ มีรากฐานมาจากสมัยชางและโจว ซึ่งทาสถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าของ เมื่อขุนนางหรือผู้มีอำนาจเสียชีวิต ทาสเหล่านี้จะถูกบังคับให้ติดตามไปด้วย เพื่อรับใช้ในโลกหลังความตาย แม้ว่าจะมีการห้ามการฝังศพแบบนี้ในสมัยฮั่น แต่ก็ยังคงมีการปฏิบัติอยู่ในสมัยหมิงและชิง โดยเฉพาะเมื่อจักรพรรดิหมิงตี้จูหยวนจางได้สั่งให้สนมที่ไม่มีบุตรต้องถูกฝังทั้งเป็น
สิ่งที่น่าสนใจคือ การค้นพบทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็นถึงท่าทางของศพสนมที่ถูกฝัง โดยเฉพาะท่าทางขาที่แยกออก ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับวิธีการเสียชีวิตของพวกเธอ จากการศึกษา พบว่า สนมจะถูกให้ยานอนหลับเพื่อทำให้หมดสติ ก่อนที่จะถูกฉีดสารพิษ เช่น ปรอท เข้าไปในร่างกาย กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก แต่ยังส่งผลให้ท่าทางของศพมีลักษณะขาแยกออก เนื่องจากการดิ้นรนก่อนที่จะสิ้นใจ
ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงสถานะของผู้หญิงในสังคมโบราณที่ไม่เท่าเทียมกัน แต่ยังเผยให้เห็นถึงความคิดเกี่ยวกับชีวิตและความตายที่บิดเบี้ยวในสังคมฟีลเดน การศึกษาประวัติศาสตร์เหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงวัฒนธรรมโบราณและผลกระทบต่อมนุษย์ในยุคนั้นได้ดีขึ้น