อดีตสว.ชี้ประเด็น'เกาะกูด'อย่าแบ่ง'กัมพูชา'
หลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 ถึงกรณี MOU 2544 หรือ MOU44 ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งได้มีขึ้นในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังจะนำมาเป็นเครื่องมือในการแบ่งผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทยและกัมพูชาว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เนื่องจากเกาะกูดเป็นของไทยอย่างชัดเจนมานานแล้ว และสิ่งสำคัญคือทรัพยากรน้ำมันใต้ทะเลในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชาซึ่งจะเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์กัน
พลเรือเอกพัลลภ ตมิศานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Structure กล่าวว่า ปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 26,400 ตารางกิโลเมตร โดยเกิดจากการประกาศอ้างสิทธิพื้นที่ไหล่ทวีป ตามกฎหมายทะเลทั้งของไทย (ปี 2516) และกัมพูชา (ปี 2515) ในลักษณะอ้างสิทธิฝ่ายเดียว (Unilateral claim) และกัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปด้านเหนือผ่ากลางเกาะกูดซึ่งเกินกว่าสิทธิตามกฎหมายทะเลและละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย จึงทำให้เกิดพื้นที่อ้างเกินสิทธิขึ้นซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ควรเป็นของไทย 100% กัมพูชาไม่มีสิทธิในพื้นที่ส่วนนี้เลย
หากไทยยอมให้นำทรัพยากรในพื้นที่อ้างตามสิทธิและพื้นที่อ้างเกินสิทธิมาแบ่งกับกัมพูชาย่อมไม่เป็นการยุติธรรมต่อประเทศไทย เพราะกัมพูชาไม่มีสิทธิใด ๆ แต่หากไทยยอมให้นำทรัพยากรในพื้นที่ที่กล่าวไปข้างต้นมาแบ่งปันกับกัมพูชา ก็เท่ากับไทยยอมรับเส้นไหล่ทวีปที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูดซึ่งจะสร้างความชอบธรรมให้กัมพูชา
หากมีการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลในอนาคต จะถูกใช้เป็นหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ในศาลระหว่างประเทศ พื่อให้เส้นไหล่ทวีปที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูดนี้เป็นเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ถูกต้องที่อาจนำไปสู่การเสียดินแดนของไทยต่อไป
พลเรือเอกพัลลภ เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาจาก MOU 44 ดังนี้
1. ในทุกกรณีไทยต้องไม่ยอมตกลงแบ่งปันทรัพยากรใดๆ กับกัมพูชาในพื้นที่ OCA 26,400 ตร.กม.นี้ แต่จะต้องเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างกันให้แล้วเสร็จเสียก่อน หากไทยยอมตกลงแบ่งปันทรัพยากร ในพื้นที่ OCA ก่อนการเจรจาแบ่งเขตแดนแล้วเสร็จ เท่ากับว่าไทยกำลังเดินเข้าสู่กับดักการเสียดินแดน
2. ไทยควรประกาศยกเลิก MOU44 โดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งเนิ่นนานไปไทยจะยิ่งเสียเปรียบ เนื่องจากบทบัญญัติของ MOU44 นั้น สื่อความหมายว่าไทยยอมรับการประกาศเขตไหล่ทวีปของ กัมพูชาเมื่อปี 2515 ซึ่งหมายถึงยอมรับความมีอยู่จริงและสร้างความชอบธรรมให้กับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ลากผ่านเกาะกูดนี้ จะทำให้ไทยเสียเปรียบในการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลและอาจนำไปสู่ การเสียดินแดนต่อไปในอนาคต
3. ไทยควรประกาศยืนยันไม่ยอมรับเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ประกาศเมื่อปี 2515 และเสนอ ให้มีการเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาต่อไป โดยสามารถใช้กฎหมายทะเลตามปกติ เป็นกรอบการเจรจาได้เช่นเดียวกับที่ไทยดำเนินการกับประเทศอื่นๆสำเร็จลุล่วงมาแล้วเช่น มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นต้น