หลังมีข่าวลือเรื่องเครื่องบินอาเซอร์ไบจานถูกมิสไซล์ยิงตก ทำให้รัสเซียออกมาปรามว่าอย่าคาดเดาซี้ซั้ว
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า รัฐบาลรัสเซียออกมาเตือนเรื่องการสนับสนุนทฤษฎีต่างๆ เรื่องสาเหตุการตกของเครื่องบินโดยสารของสายการบิน อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส ในประเทศคาซัคสถานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และคร่าชีวิตผู้โดยสารไป 38 ศพ ระหว่างเดินทางไปรัสเซีย สาเหตุการตกของเครื่องบินลำนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินบางคนออกมาตั้งสมมติฐานว่า เที่ยวบิน J2-8243 อาจถูกยิงโดยระบบป้องกันทางอากาศในสาธารณรัฐเชชเนีย ของรัสเซีย ขณะที่สื่อท้องถิ่นของอาเซอร์ไบจานก็รายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งว่า เครื่องบินลำนี้ตกเพราะมิสไซล์ของรัสเซีย นายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลินของรัสเซีย กล่าวว่า คงไม่ถูกต้องที่จะผลักดันทฤษฎีใดๆ ก่อนที่การสืบสวนจะมีข้อสรุป แน่นอนว่าเราจะไม่ทำอย่างนั้น และไม่ควรมีใครทำแบบนั้น เราจำเป็นต้องรอจนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ เที่ยวบิน J2-8243 ออกเดินทางจากกรุงบากู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจานในเวลา 7.55 น. วันพุธตามเวลาท้องถิ่น เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองกรอซนี ในเชชเนีย พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือรวม 67 คน แต่เครื่องบินต้องเปลี่ยนเส้นทางเพราะหมอกลงจัด โดยบินข้ามทะเลแคสเปียน ไปยังสนามบินที่เมืองอัคเทา ทางตะวันตกของคาซัคสถาน ซึ่งห่างจากจุดหมายไปทางตะวันออกถึง 450 กม. ภาพจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินลำนี้พุ่งลงพื้นด้วยความเร็วสูง ขณะอยู่ห่างจากรันเวย์สนามบินเมืองอัคเทาราว 3 กม. ก่อนจะเกิดไฟลุกท่วม เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 38 ศพ ขณะที่มีผู้รอดชีวิต 29 ราย โดยหนึ่งในผู้โดยสารบอกกับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซียว่า นักบินพยายามลงจอด 2 ครั้งเหนือเมืองกรอซนี ท่ามกลางหมอกลงจัด แต่ระหว่างความพยายามครั้งที่ 3 บางอย่างก็ระเบิด และผิวเครื่องบินบางส่วนหลุดออกไป ทางการคาซัคสถานพบกล่องดำ หรืออุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเครื่อง เอ็มบราเออร์ 190 ลำนี้แล้ว และกำลังสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยหลังจากเกิดเหตุไม่นาน สื่อของรัสเซียรายงานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการบินชนกับฝูงนก