‘นายกอิ๊งค์’ วอนอย่าสร้างวาทกรรมเกลียดชัง ขอฝ่ายค้าน อย่าเป็นฝ่ายแค้น
หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดิตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยได้เจออุบัติเหตุทางการเมืองจากกรรีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้หลุดจากตำเเหน่งนายกรัฐมนตรีไปด้วยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียง จากที่เเต่งตั้งบุคคลต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาเป็นรัฐมนตรี จนนำไปสู่การที่ต้องมีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นใหม่ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เเละ นางสาวเเพรทองธาร ชินวัตรขึ้นมาดำรงตำเเหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ทั้งนี้ได้มีการโปรดเกล้าเเต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อย เเละเดินทางมาถึงวันที่ คณะรัฐมนตรี ต้องเข้าเเถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดย
‘นายกอิ๊งค์’ วอนอย่าสร้างวาทกรรมเกลียดชัง ขอฝ่ายค้าน อย่าเป็นฝ่ายแค้น
นายกอิ๊งค์ วอนอย่าสร้างวาทกรรมเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิด ขอฝ่ายค้าน อย่าเป็นฝ่ายแค้น ร่วมใจแก้ปัญหาประเทศไปด้วยกัน
นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาแถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาว่า ต้องขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะ ขอยืนยันว่าได้รับฟังทุกท่านอย่างชัดเจน นโยบายที่ถูกหยิบมาพูดในวันนี้ บางนโยบายก็ได้ทำสำเร็จลงแล้ว บางนโยบายยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างนโยบายพักหนี้เกษตรกร รวมถึงเรื่องยาเสพติด รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยจะสานต่อจากนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่เริ่มกวดขันชายแดน ไม่ให้ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามา จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ไปบางส่วนแล้ว จากการรับฟังปัญหา สส.ในพื้นที่ชาวบ้านเองก็พยายามอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา
นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าก่อนตนจะมีอำนาจตามกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งการไปหมดแล้ว นี่จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลเร่งลงมืออย่างรวดเร็วเช่นกัน เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องมาร่วมมือกัน ร่วมแรง ร่วมใจกัน เพื่อที่จะผ่านวิกฤตต่างๆ ของประเทศชาติไปด้วยกัน ที่ไม่ใช่การสร้างความเกลียดชัง “ไม่อยากให้ฝ่ายแค้น ฝ่ายค้านมีเรื่องคับแค้นใจ เป็นฝ่ายแค้นแทน เราไม่ต้องแค้นกัน เราต้องเข้าใจกัน ว่าเราสามารถอยู่ในสภาแห่งนี้ ด้วยหลักของความเข้าใจ ที่ถูกต้องจริงๆ”