ผลการปราบปรามปลาหมอคางดำใน 4 จังหวัด ปริมาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ผลการปราบปรามปลาหมอคางดำใน 4 จังหวัด ปริมาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานจากหน่วยงานประมงใน 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช, สมุทรสงคราม, ฉะเชิงเทรา และสมุทรสาคร พบว่ามาตรการจัดการปลาหมอคางดำมีผลสำเร็จ โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาครที่สามารถจับได้ถึง 1.4 ล้านกิโลกรัม
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 นายกอบศักดิ์ เกตุเหมือน ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ชาวบ้านในจังหวัดนี้มีการจับปลาหมอคางดำเพื่อใช้เป็นปลาเหยื่อในการจับปูมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางประมงจังหวัดได้ดำเนินการจับปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ปากพนังและหัวไทร โดยจัดกิจกรรมลงแขกลงคลองเพื่อจับปลาในคลองต่าง ๆ ซึ่งจนถึงปัจจุบันได้ส่งปลาหมอคางดำให้โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยางแล้ว 21 ตัน และในเดือนกันยายนนี้ยังมีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อซื้อปลาหมอคางดำในราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อส่งให้สำนักงานพัฒนาที่ดินผลิตน้ำหมักชีวภาพและแจกจ่ายให้เกษตรกร คาดว่าจะสามารถกำจัดปลาได้อีกกว่า 18 ตัน
นายกอบศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการจำกัดปลาหมอคางดำที่ดำเนินการมาได้ผลดี ทำให้แหล่งน้ำหลายแห่งมีปลาหมอคางดำน้อยลง และมีแผนที่จะปล่อยปลาผู้ล่าเพื่อช่วยกำจัดลูกปลาหมอคางดำในช่วงปลายเดือนนี้
ในส่วนของนายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดได้ดำเนินการตามมาตรการ “เจอ แจ้ง จับ จบ” โดยร่วมมือกับประมงพื้นบ้านตั้งกองเรืออวนรุน 33 ลำ ทำการจับปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทั่วทั้งจังหวัด ผลจากการใช้เครื่องมือจับปลาที่มีประสิทธิภาพและความร่วมมือจากแพปลาและโรงงานปลาป่น ทำให้สามารถกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำได้มากกว่า 1.4 ล้านกิโลกรัม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการนี้มีประสิทธิผล
นายเผดิมยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการกำจัดปลาหมอคางดำอย่างจริงจังทำให้ปลาหมอคางดำในสมุทรสาครลดลงประมาณ 70% และจังหวัดยังคงเดินหน้ากำจัดปลาต่อไป โดยมุ่งเน้นการจับปลาในบ่อร้างมากขึ้น
นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการ “ลงแขกลงคลอง” ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้จับปลาหมอคางดำได้กว่า 9,000 กิโลกรัม โดยในช่วงหลัง ๆ พบว่าจับได้แต่ปลาตัวเล็กลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจับปลาช่วยลดจำนวนปลาหมอคางดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จังหวัดสมุทรสงครามใช้วิธีการจับปลาด้วย “กากชา” ควบคู่กับ “อวนทับตลิ่ง” ซึ่งเหมาะสมกับบริบทของจังหวัดที่มีลำคลองขนาดเล็กและมีตอไม้มาก พร้อมทั้งได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสมุทรสงครามเพื่อศึกษาความหนาแน่นของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำและวางแผนการจัดการอย่างเป็นระบบ รวมถึงการปล่อยปลาผู้ล่าเพื่อตัดวงจรปลาหมอคางดำ
สุดท้าย นายคนึง คมขำ ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สถานการณ์ปลาหมอคางดำในจังหวัดนี้ไม่หนาแน่นมาก เนื่องจากชาวบ้านมีการจับและบริโภคอย่างต่อเนื่อง