ชายไทยลอยเคว้งกลางทะเล 2 วัน รอดตายเพราะขวดน้ำอ้อย
เพจเฟสบุ๊ก "กองทัพเรือไทย" ได้โพสต์ว่า "ในช่วงเช้าของวันที่ 3 ก.ย. 2567 ลูกเรือประมงอวนล้อม ล.ชัยนาวี ชื่อ "สุนทร ขาวสม" ได้พลัดตกน้ำที่ระยะห่างฝั่งประมาณ 10 ไมล์ทะเล จากจังหวัดสตูล โดยทางเจ้าของเรือได้แจ้งขอความช่วยเหลือหน่วยต่างๆ ให้ออกค้นหาแต่ก็ยังไม่พบ"
จนกระทั่งวันที่ 5 ก.ย. 2567 ทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะบุโหลนไม้ไผ่ จว.สตูล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ เกาะแห่งนั้น ว่าพบชายตกน้ำรายดังกล่าวแล้วอยู่บนเกาะบุโหลนไม้ไผ่ โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ ออกเดินทางไปรับตัวกลับเข้าฝั่ง ณ สถานีเรือละงู โดยมีญาติของเขาเดินทางมารอรับด้วยความดีใจ และตื้นตัน ที่เขาได้รับการช่วยเหลือมาอย่างปลอดภัย รอดตายราวกับปาฎิหาริย์ หลังจากลอยคออยู่กลางทะเลถึง 2 วัน 1 คืน ท่ามกลางกระแสคลื่นลมที่รุนแรง
"สุนทร ขาวสม" กล่าวว่า "ขณะที่ผมได้พลัดตกน้ำไป มองเห็นเรือแล่นห่างออกไปไม่ไกล ผมเองก็ได้พยายามว่ายเข้าหาเรือ และ ได้ตะโกนเรียกเพื่อนๆในเรือ แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน ผมจึงได้พยายามลอยตัวเพื่อให้มีชีวิตรอด ท่ามกลางกระแสคลื่นลมที่รุนแรง แต่เมื่อผ่านไปนานเข้าๆ อาการเหนื่อยก็ทวีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ผมจึงได้ถอดเสื้อผ้าทิ้งออกทั้งหมด เพื่อลดน้ำหนักลงทำให้ตัวเบา และ มีแรงลอยตัว จะได้เหนื่อยน้อยลง เพื่อให้สามารถลอยตัวมีชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางคลื่นที่รุนแรง เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า จนเข้าสู่ช่วงค่ำคืนของวันที่ 3 ผมรู้สึกท้อแท้ และสิ้นหวังเป็นอย่างมาก ในใจได้นึกถึงหลวงพ่อวัดบ้านแหลม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผมเคารพนับถือ และ ผมได้ห้อยอยู่ที่คอเพียงองค์เดียว แล้วบนบานว่าถ้าหากผมมีชีวิตรอดกลับไปได้ ผมจะขอบวชให้เป็นเวลา 7 วัน"
"สุนทร ขาวสม" กล่าวอีกว่า "เมื่อคืนของวันที่ 3 ผ่านพ้นไป จนเข้าสู่เช้าวันที่ 4 เรี่ยวแรงของผมเริ่มหมดลงไปทุกที พร้อมทั้งความกระหายน้ำก็มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น จากแสงแดดที่แผดเผากลางทะเล แต่เหมือนกับปาฎิหาริย์ ได้มีน้ำอ้อยขวดหนึ่งลอยมา ผมเลยคว้าหยิบไว้ดื่มกินแก้หิวและกระหาย เพื่อให้มีชีวิตรอดได้ต่อไป จนกระทั่งถึงในช่วงเย็นของวันที่ 4 ปาฎิหาริย์ครั้งใหญ่ยิ่งได้เดินทางมาถึง เมื่อคลื่นและลมได้เป็นใจพลัดพาผม ลอยเข้ามาขึ้นยังเกาะบุโหลนไม้ไผ่ จังหวัดสตูล ผมได้เดินไปสำรวจยังพื้นที่บนเกาะ และ ได้พบกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะบุโหลนไม้ไผ่ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเกาะนี้ จึงได้ขอความช่วยเหลือ จนกระทั่ง ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ส่ง นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ มารับผม..."