บริษัทแม่ของ เซเว่นอีเลฟเว่น ในญี่ปุ่น ไม่สนข้อเสนอการขอเทคโอเวอร์ของบริษัทจากแคนาดา เหตุเพราะประเมินคุณค่าของเซเว่นอีเลฟเว่นต่ำเกินไป
ในแวดวงธุรกิจนั้น ปลาใหญ่กินปลาเล็กมีให้เห็นกันอยู่เนืองๆ หลังปี 2000 มานี้ มีให้เห็นกันชัดเจนขึ้นและมากขึ้น เป็นไปตามกระแสธุรกิจโลก ในบ้านเราก็เช่นกัน ลองนึกๆดูสิครับ ว่าห้างร้านอะไรที่เราเคยรู้จักถูกบางบริษัทเทคโอเวอร์ไปแล้วบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ในกรณีที่กำลังจะพูดถึงนี้ โดยธุรกิจนี้ในบ้านเราก็มี มากเสียด้วย ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึงร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นนั่นเอง แต่ของบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ว่าว่า บริษัท เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการเครือร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข้อเสนอครอบงำกิจการของบริษัท อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (เอซีที) ซึ่งเป็นผู้บริหารเครือร้านสะดวกรายใหญ่สัญชาติแคนาดา เซอร์เคิล เค
เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่ ประเมินคุณค่าของเซเว่นอีเลฟเว่นต่ำเกินไปนั่นเอง ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของ เซเว่น แอนด์ ไอ ระบุด้วยว่า ข้อเสนอหลายประการของเอซีที ไม่สอดคล้องกับความท้าทายหลายประการ ซึ่งรวมถึงการต้องเผชิญกับกฎหมายการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ เอซีทียื่นข้อเสนอมายังเซเว่น แอนด์ ไอ เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ขอซื้อกิจการเซเว่นอีเลฟเว่น เบื้องต้นเป็นเงิน 5.6 ล้านล้านเยนหรือเมื่อคิดเป็นเงินไทยก็ตกอยู่ที่ประมาณ 1.31 ล้านล้านบาท โดยในปัจจุบัน เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นเครือร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยสาขาทั่วโลกมากกว่า 85,000 แห่ง ในจำนวนนี้มากกว่า 13,000 แห่ง เป็นสาขาในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ขณะที่เอซีทีมีสาขาร้านสะดวกซื้อมากกว่า 16,700 แห่ง กระจายอยู่ใน 31 ประเทศนั่นเอง