‘มาร์ค’ ชี้ประเทศไทยไม่มีอะไรเปลี่ยน คาด ‘นายกอิ๊งค์’ อยู่ครบเทอม
หลังจากได้มีการหวัดเลือกนายกรับมนตรี คนที่ 31 ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ซึ่ง ได้เลือกขึ้นมาเเทนตำเเหน่งนายก คนที่ 30 ที่หลุดจากตำเเหน่งนายกรัฐมนตรีไป จากคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูลเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียง จากกรณีเเต่งตั้งบุคคลต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายก ทั้ง นี้เมื่อหลุดจากการดำรงเเต่เเหน่งนายก ของนายเศรษฐา ทวีสินไป ทางพรรคเพื่อไทย ได้เสนอเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนถัดไปนั่นก้คือนางสาวเเพรทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาดำรงตำเเหน่ง
ทั้งนี้เธอได้รับเสียงข้างมากจากสมาชิกสภาภูเเทนราษฎร 319 เสียง ต่อ 145 เสียง ทั้งมีการงดออกเสียง 27 เสียง ในเวลาต่อมาเมื่อมีการได้นายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นลงไป ทางพรรคเพื่อไทยได้มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากการร่วมจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ เเละทำหนังสือเทียบเชิญร่วมจัดตั้งรัฐบาลไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาพรรคประชาธิปัตย์ ทางผู้บริหารพรรคได้มีมติเข้าร่วมจัดตั้งรัฐาล
เเต่ไม่วายอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่่างมาร์ค อภิสิทธิ์ ชี้ประเทศไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนจากวันที่ ทักษิณ เรืองอำนาจ คาด นายกอิ๊งค์ อยู่ครบเทอม ตอบจุดอ่อนรัฐบาลชุดนี้คืออะไร
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางการเมืองประเทศไทยว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากวันที่นายทักษิณ ชินวัตร เคยเรืองอำนาจ
ส่วนที่นายทักษิณเข้ามามีบทบาทบริหารประเทศ จะกระทบกับการบริหารประเทศมากน้อยแค่ไหนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ สังคมมองออกว่านายทักษิณมีบทบาทมาต่อเนื่อง
เพียงแต่จะเปิดเผยมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ส่วนหนึ่งถ้ามองในมุมบวกต้องบอกว่า สำหรับคนที่เชื่อในแนวทางนั้น อาจจะมีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจมากขึ้น อาจจะทำให้การประสานงาน อาจจะใช้ประสบการณ์ผลักดันในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ขณะเดียวกันเคยบอกว่าวันที่นายทักษิณเคยมีอำนาจมากมายมหาศาล สุดท้ายต้องยุติลงด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นความไม่ถูกต้อง ดังนั้นถ้ายังไม่เก็บเกี่ยวบทเรียนตรงนี้ความเสี่ยงที่จะเกิดแบบนี้อีก