กลุ่มเปราะบางที่ชัดเจนแล้วจะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต้องทำการลงทะเบียนหรือไม่?
รัฐบาลยืนยันว่ากลุ่มเปราะบางจะต้องลงทะเบียนเพื่อรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งจะถูกโอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายในเดือนกันยายน 2567
สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนจำนวน 13.5 ล้านราย ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากรัฐบาลมีข้อมูลที่ครบถ้วนตั้งแต่การลงทะเบียนในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปี 2565 ขณะที่ผู้พิการที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปและมีบัตรคนพิการ จะได้รับเงินผ่านพร้อมเพย์ที่เชื่อมโยงกับบัตรประชาชน 13 หลัก สำหรับกลุ่มเปราะบางที่รัฐบาลจะมอบเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นกลุ่มแรก ประกอบด้วยผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวมประมาณ 14.5 ล้านคนทั่วประเทศ
วิธีการยืนยันตัวตนและลงทะเบียนเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" สำหรับกลุ่มเปราะบางมีขั้นตอนดังนี้:
1. ดาวน์โหลดแอปฯ “ทางรัฐ” จาก App Store หรือ Google Play
2. เปิดแอปฯ และเลือก “ลงทะเบียนรับสิทธิ”
3. อ่านเงื่อนไขและกด “ถัดไป”
4. ยอมรับข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว
5. กรอกเลขบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร แล้วกด “ตรวจสอบข้อมูล”
6. กรอกข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง แล้วกด “ดำเนินการต่อ”
7. อ่านข้อแนะนำและสแกนใบหน้า
8. ระบบจะแสดงผลการรับข้อมูลการลงทะเบียน
9. เมื่อระบบตรวจสอบเสร็จ กด “สร้างบัญชีทางรัฐ”
10. ตั้งชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน แล้วกด “ยืนยัน”
11. ตั้งรหัส Pin Code 6 หลัก
เงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ เช่น ซื้อของอุปโภค-บริโภค เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) สบู่ ยาสีฟัน และอื่น ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า
เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินดิจิทัลผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีดังนี้:
1. เงินดิจิทัลวอลเล็ตสามารถใช้จ่ายค่ารถโดยสารที่มีเครื่อง e-Ticket
2. ใช้สำหรับซื้อตั๋วรถโดยสาร บขส. และรถไฟ
3. ใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ
4. หากเงินในบัตรไม่เพียงพอ สามารถเติมเงินผ่านบริการ e-Money ของธนาคารกรุงไทย
5. เงินในบัตรไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถสะสมยอดเงิน
6. บัตรใช้ได้เฉพาะเจ้าของบัตร ยกเว้นผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงที่มีผู้ดูแล
ประชาชนทั่วไปที่ไม่อยู่ในกลุ่มเปราะบางต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เพื่อรับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยรัฐบาลจะประกาศผู้มีสิทธิ์ในวันที่ 22 กันยายน 2567 การแจกจ่ายเงินจะแบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรก 5,000 บาทภายในเดือนกันยายน และรอบที่สองอีก 5,000 บาทผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต
ขอให้ประชาชนติดตามรายละเอียดและความคืบหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง