งานวิจัยพบว่า ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดฟ้าผ่าในอินเดียเพิ่มขึ้น จนเป็นที่น่ากังวล
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อวานนี้ (28 สิงหาคม 2567) ว่างานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนา และความยั่งยืน เปิดเผยว่า ฟ้าผ่าในอินเดียเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระดับน่ากังวล เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ส่งผลให้การเกิดฟ้าผ่าในอินเดียเพิ่มสูงขึ้น และคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 1,900 รายต่อปี ทีมนักวิจัยที่นำโดยมหาวิทยาลัยฟากีร์ โมฮัน ในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดีย เปิดเผยว่า ฟ้าผ่าในอินเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 101,309 ราย ระหว่างปี 2510-2563 และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วระหว่างปี 2553-2563 อินเดียจึงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนมากที่สุด และฟ้าผ่าในอินเดียมีแนวโน้มคาดการณ์ได้ยากขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่า เฉลี่ยต่อปีต่อรัฐในอินเดีย เพิ่มขึ้นจาก 38 ราย ระหว่างปี 2510-2545 เป็น 61 รายต่อปี ระหว่างปี 2546-2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชากรอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 1,400 ล้านคน ความถี่ของฟ้าผ่าเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นก่อให้เกิดไอน้ำมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดประจุไฟฟ้าและฟ้าผ่า รวมไปถึงระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการขาดความตระหนักรู้ถึงแนวทางการลดความเสี่ยง