เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ราคาไข่เป็ดสูงขึ้น
มีการเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ราคาไข่เป็ดปรับตัวสูงขึ้น โดยเจ้าของฟาร์มต้องเผชิญกับปัญหาหลายประการ โดยเฉพาะในจังหวัดราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงฤดูฝนและราคาค่าอาหารที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาไข่เป็ดที่หน้าฟาร์มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ฟาร์มเป็ดในตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีการเลี้ยงเป็ดกว่า 50,000 ตัว กลับมีการผลิตไข่ลดลงอย่างมาก ทำให้เจ้าของฟาร์มต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นและกำไรจากการเลี้ยงลดลง
นายปรีชา เริ่มภักตร์ และนางชญานิษฐ์ นิพัฒน์คุณากุล สองสามีภรรยาเจ้าของฟาร์มเป็ด ได้พาไปชมการเลี้ยงเป็ดที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายเล้า โดยมีการสร้างโรงเรือนเปิดโล่งและพื้นที่สำหรับไข่เป็ดแยกต่างหาก มีการจัดการเปิด-ปิดประตูตามเวลาเพื่อควบคุมการเข้าออกของเป็ด ภายในฟาร์มมีฟางแห้งและล้อยางวางเรียงรายเพื่อให้เป็ดสามารถเดินขึ้นไปไข่ได้ โดยที่เท้าเป็ดจะเหยียบบนล้อยางเพื่อลดความสกปรกของไข่ ขณะเดียวกัน คนงานจะทำการเก็บไข่ เช็ดทำความสะอาดก่อนนำไปจัดเรียงเพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้าต่อไป
นายปรีชา กล่าวว่า ฟาร์มเลี้ยงเป็ดประมาณ 50,000 ตัวมาเป็นเวลา 8 ปี ต้องคอยดูแลให้พื้นที่แห้งและสะอาดเพื่อให้ผลผลิตไข่มีคุณภาพดี โดยในช่วงฤดูหนาวที่อากาศไม่แฉะ เปอร์เซ็นต์การออกไข่จะอยู่ที่ประมาณ 80% แต่ในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกบ่อย เปอร์เซ็นต์การออกไข่จะลดลงเหลือประมาณ 70%
นายปรีชายังกล่าวต่อไปว่า ราคาค่าอาหารที่สูงขึ้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาไข่เป็ดเพิ่มขึ้น โดยกระสอบอาหารขนาด 30 กิโลกรัมมีราคาอยู่ที่ 560 บาท ขณะที่เมื่อเริ่มเลี้ยงราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 300 บาท แต่ตอนนี้ราคาขึ้นถึง 200 บาทต่อกระสอบ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นและส่งผลให้ราคาไข่เป็ดปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยในพื้นที่ต่างๆ เช่น สุพรรณบุรี ชลบุรี และราชบุรี ราคาจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยประมาณ 10 สตางค์
นายปรีชายังกล่าวเพิ่มเติมว่า เป็ดที่เลี้ยงในทุ่งจะมีต้นทุนต่ำกว่า ทำให้ราคาไข่ถูกกว่าไข่จากฟาร์ม แต่ไข่จากเป็ดในทุ่งจะเก็บรักษาได้น้อยกว่า เนื่องจากเป็ดจะไข่ในทุ่งนาและมีโอกาสเน่าเสียได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ขณะที่ไข่จากฟาร์มสามารถเก็บรักษาได้นานกว่า
เป็ดในฟาร์มจะกินอาหารเฉลี่ยตัวละ 2 บาท 20 สตางค์ต่อวัน ขณะที่เป็ดในทุ่งจะไม่มีต้นทุนอาหารเลย เพราะสามารถหากินได้จากธรรมชาติ นายปรีชาระบุ
ในปัจจุบัน ราคาไข่เป็ดหน้าฟาร์มเบอร์ 1 อยู่ที่ 4 บาท 80 สตางค์ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย หากมีการบริหารจัดการที่ดี ก็ยังสามารถมีกำไรอยู่บ้าง เช่น หากเลี้ยงเป็ด 40,000 ตัว จะได้ไข่ประมาณ 40,000 ฟอง และหากมีกำไรเฉลี่ย 25 สตางค์ต่อฟอง จะได้กำไรประมาณ 10,000 บาทต่อวัน
อย่างไรก็ตาม การดูแลและบริหารจัดการฟาร์มให้ดีที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ โดยจะต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ เช่น วัคซีนไข้หวัดนก เพื่อรักษาสุขภาพของเป็ดให้แข็งแรงดีขึ้นด้วย