ล่าสุดน้ำท่วมน่านจมบาดาล 9 อำเภอ
อัปเดต น้ำท่วมน่าน จมบาดาล 9 อำเภอ 36 ตำบล 195 หมู่บ้าน จนท.เฝ้าระวังน้ำขึ้นต่ออย่างต่อเนื่อง
ที่ จ.น่าน สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 20 - 22 ส.ค. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 9 อำเภอ 36 ตำบล 195 หมู่บ้าน
(1).อำเภอเชียงกลาง ได้รับผลกระทบ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน
(2).อำเภอเฉลิมพระเกียรติได้รับผลกระทบ รวม 1 ตำบล 5 หมู่บ้าน
(3).อำเภอเวียงสา ได้รับผลกระทบ รวม 6 ตำบล 6 หมู่บ้าน
(4).อำเภอทุ่งช้าง ได้รับผลกระทบ รวม 4 ตำบล 40 หมู่บ้าน
(5).อำเภอบ้านหลวง ได้รับผลกระทบ รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน
(6).อำเภอท่าวังผา ได้รับผลกระทบ รวม 10 ตำบล 68 หมู่บ้าน
(7).อำเภอนาน้อย ได้รับผลกระทบ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
(8).อำเภอภูเพียง ได้รับผลกระทบ รวม 4 ตำบล 35 หมู่บ้าน
(9).อำเภอเมืองน่าน ได้รับผลกระทบ รวม 4 ตำบล 20 หมู่บ้าน
และนอกจากนี้ยังได้เกิดดินโคลนถล่มบน ถนนหลายสายถูกตัดขาด น้ำกัดเซาะจนพังถล่มลงมา ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างหลายจุดและ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายสิบครัวเรือนบางครัวเรือนขาดแคลนอาหารน้ำดื่มและเครื่องอุปโภคบริโภค หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแล้ว
ขณะที่ นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ ได้ นำทีมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิฯและพี่น้องอาสาสมัครฯ มูลนิธิ ชุดแรกร่วม 30 นาย พร้อมเรือท้องแบน ช่วยเหลือทางน้ำ เดินทางลงพื้นที่ ต.ดู่ใต้ ในเขต อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งจุดนี้จะอยู่ติดริมน้ำมีน้ำไหลผ่านสองสายคือแม่น้ำสมุนและแม่น้ำน่านรองรับน้ำมาจากอำเภอท่าวังผาที่ไหลบ่าลงมาเร็วมาก
โดยแผนการปฏิบัติช่วยชาวบ้านจะมีทั้งการอพยพคน ทรัพย์สินมีค่า และสัตว์เลี้ยง ออกจากจุดเสี่ยงภัย พร้อมมอบ
สิ่งของ ช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว โดยการประสานงานเข้าช่วยเหลือประชาชนร่วมกับ นายกฤชเพชรท เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่านอีกด้วย
สื่อข่าวรายงานว่า ทีมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิฯลงพื้นที่จุดแรกที่ หมู่ที่ 13 บ้านดอนมูลพัฒนา เข้าช่วยเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง จุดนี้พบว่ามีระดับน้ำท่วมสูงราว ๆ 1 - 2 เมตร ต้องนำเรือท้องแบนเข้าไปยังพื้นที่ โดยการนำของผู้นำชุมชนชาวบ้าน
นางพิสมัย พุฒิพงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า น้ำได้ทะลักเข้ามาช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ในขณะนี้ก็กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ บางจุดก็น้ำเชี่ยวมาก สูงถึง 2 เมตร ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านสองชั้น ชาวบ้านก็จะหนีน้ำขึ้นไปพัก กันที่ชั้นสองก่อน
ที่เดือดร้อนในตอนนี้คือเรื่องของอาหารเพราะน้ำมาไวมากๆ ทุกคนเตรียมตัวไม่ทันเลย ไม่มีใครได้กักตุนอาหารไว้เลยเอาไม่ทัน และไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ในตอนนั้น ที่ต้องการมากๆตอนนี้คืออาหารปรุงสุกและน้ำดื่ม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ยังคงต้องเกาะติดเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆกลัวชาวบ้านแถวนั้นจะไม่ปลอดภัย