รันทดสุดๆ ! หนุ่มผูกคอดับคาห้องน้ำ บ้านถูกตัดน้ำ-ไฟ ช้ำโดนแฟนทิ้ง กลิ่นเน่าโชย ตาย 5 วันเพิ่งรู้

ช็อก! พบศพหนุ่มวัย 34 ดับคาห้องน้ำ หนุ่มพลทหารเจอกลิ่นเน่าคิดว่าคางคกตาย ก่อนช็อกเจอศพผูกคอเสียชีวิตในบ้านหรูที่น้ำไฟถูกตัด 🚨

เกิดเหตุสะเทือนใจที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อหนุ่มพลทหารอายุ 19 ปี ที่ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นเพียงสัตว์อย่างคางคกตาย แต่เมื่อสังเกตเห็นแมลงวันบินตอมเป็นกลุ่มใหญ่บริเวณห้องน้ำ จึงตัดสินใจปีนเข้าไปดู และพบศพชายอายุ 34 ปี เจ้าของบ้านหรูที่เสียชีวิตไปแล้วถึง 5 วัน

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พล.ต.ท.ธีระภาพ ภูขันซ้าย รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตในบ้านหรูแห่งหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรร ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อรับแจ้งแล้วจึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ชุดพิรุณ กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เจ้าหน้าที่นิติเวชโรงพยาบาลอุดรธานี และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงสถานที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แต่ประตูรั้วหน้าบ้านถูกล็อกกุญแจ เจ้าหน้าที่ต้องปีนรั้วและตัดกุญแจเพื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน เมื่อเข้าไปถึงก็ได้กลิ่นศพโชยมาอย่างรุนแรง ภายในบ้านพบศพชายวัย 34 ปี ชื่อนายศุภชัย (สงวนนามสกุล) เสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำชั้น 1 โดยมีสายไฟปลั๊ก 3 ตาตกอยู่ข้างๆ สภาพศพขึ้นอืดและมีหนอนชอนไช แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน

หตุ

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า บ้านหลังนี้ถูกตัดน้ำตัดไฟฟ้าไปแล้ว แต่เจ้าของบ้านได้ลักลอบต่อน้ำและไฟฟ้าเข้ามาใช้เอง นอกจากนี้ ยังพบว่าในบัญชีของผู้เสียชีวิตมีเงินเข้าถึง 500,000 บาท เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจในการสืบสวนหาสาเหตุของการเสียชีวิต

พลทหารโชติ อายุ 19 ปี ผู้ที่พบศพคนแรกเล่าว่า ตอนแรกเขาได้กลิ่นเหม็นเน่าคิดว่าเป็นคางคกตาย แต่เมื่อกลิ่นแรงขึ้นและเห็นแมลงวันบินตอมเป็นกลุ่มใหญ่ที่บริเวณห้องน้ำ จึงปีนไปดูและพบว่าผู้เสียชีวิตนั่งคอตกอยู่ในห้องน้ำ เขาช็อกและรีบปีนออกมาโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

นายพิพัฒพงษ์ อายุ 75 ปี ประธานชุมชนการเคหะ เล่าว่า ผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้ หลังจากแม่ของเขาเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้วที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากโรคหัวใจ นายพิพัฒพงษ์ยังกล่าวเสริมว่า ผู้เสียชีวิตเคยทะเลาะกับแฟนสาวอย่างรุนแรงเมื่อเดือนก่อน และแฟนสาวก็หายออกไปจากบ้านหลังจากนั้น

นางมาลัย อายุ 77 ปี อสม. เล่าว่า ผู้เสียชีวิตใช้ชีวิตอยู่บ้านคนเดียว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แม่ของผู้เสียชีวิตซื้อบ้านหลังนี้ให้ลูกชายอยู่คนเดียวหลังจากที่แม่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นหรือฮ่องกง แม้ผู้เสียชีวิตจะมีสาวพยาบาลมาเยี่ยมบ้างในบางครั้ง แต่หลังๆ ไม่ค่อยเห็นพยาบาลคนนั้นมาเยี่ยมแล้ว

เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความซับซ้อนในชีวิตของผู้คนที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่น่าเศร้า พลทหารที่พบศพและเพื่อนบ้านต่างตกใจและสะเทือนใจจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของนายศุภชัยต่อไป