ความร้ายกาจของปลาหมอคางดำ ทำคนเลี้ยงกุ้งน้ำตาตก ปล่อยกุ้ง 5 แสนตัว แต่กลับได้เอเลียนสปีชีส์ 3 ตันแทน
นี่ก็คืออีกหนึ่งตัวอย่างของความร้ายกาจของปลาเอเลียนสปีชีส์อย่างปลาหมอคางดำ โดยลุงเจ้าของบ่อเลี้ยงกุ้งที่ อ.อัมพวา น้ำตาตก ถูกบ่อนทำลายความรู้สึกจากปลาเอเลี่ยน หลังปล่อยกุ้ง 5 แสนตัว วิดบ่อได้ปลาหมอคางดำกว่า 3 ตัน รับสภาพขาดทุนยับ เผยยังดีที่รัฐรับซื้อกิโลละ 15 บาท แต่ขอให้รับซื้อตลอดไป ไม่ใช่แค่เดือนเดียว จากกรณีที่ปลาหมอคางดำระบาดในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม มานานกว่า 10 ปี และระบาดไปเกือบทั่วประเทศแล้วนั้น ในส่วนของผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำใน จ.สมุทรสงคราม ได้รับผลกระทบหนัก เช่น นายณรงค์ แซ่โค้ว อายุ 54 ปี ซึ่งเช่าที่ 120 ไร่ เลี้ยงกุ้งธรรมชาติ ในพื้นที่ ม.3 ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยเมื่อ 6 เดือนก่อนได้วิดบ่อเพื่อจับกุ้ง แต่ได้ปลาอหมอคางดำ 5 ตัน จึงได้ล้างบ่อแล้วลงน้ำใหม่ ปล่อยกุ้งกุลาดำ 2 แสนตัว และกุ้งขาวอีก 3 แสนตัว ลงทุนไปรวมราว 3 หมื่นบาท
มาวันนี้ไม่ได้กุ้งเลย แต่ได้ปลาหมอคางดำ 3 ตันเศษ นายณรงค์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับมาตรการรับซื้อปลาหมอคางดำของกระทรวงเกษตรฯ ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท แต่ตนเห็นว่าควรจะเปิดรับซื้อระยะยาว จนกว่าปลาหมอคางดำจะหมดไปจากแผ่นดินไทย โดยนานแค่ไหนก็ต้องรับซื้อ อย่าซื้อแค่แป๊บเดียว หรือเดือนเดียวแค่นั้นก็จะช่วยเกษตรกรไม่ได้เลย โดยที่ผ่านมาตนพยายามสู้และปรับปรุงมาโดยตลอด แต่ก็จะไม่ไหวแล้ว อนาคตก็คงต้องเลิก และอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคงจะพังพินาศไปหมด ต้องไปหาอาชีพอื่น เจ้าของบ่อเลี้ยงกุ้ง กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้ว จังหวัดสมุทรสงคราม เคยรับซื้อมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ให้เวลาแค่ 1 เดือน เจ้าของบ่อไหนที่ขึ้นปลาทันก็ได้รับเงินไป ถ้าไม่ทันก็ปล่อย เหมือนเป็นการแก้ปัญหาแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอด ตนจึงขอฝากให้รัฐบาลรับผิดชอบอย่างจริงจัง อย่าให้ประชาชนฐานรากหน้าต้องพังพินาศหมด บริษัทยักษ์ใหญ่นำเข้ามาก็เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง แต่มาทำลายระบบนิเวศของส่วนรวม