Google ถูกศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯตัดสิน ให้แพ้คดีต่อต้านการผู้ขาดตลาดเสิร์จเอนจิน
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม 2567) ว่าศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ มีคำตัดสินว่า ธุรกิจเสิร์ชเอนจิน (Search Engine) ของกูเกิล (Google) ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของบริษัทไอทีชื่อดังเจ้านี้ ซึ่งอาจพลิกโฉมการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ของชาวอเมริกันนับล้านคน หลังจากพิจารณาอย่างระมัดระวัง และชั่งน้ำหนักคำให้การของพยานและหลักฐาน ศาลจึงมีข้อสรุปดังนี้ กูเกิลเป็นผู้ผูกขาด และพวกเขามีพฤติกรรมเป็นผู้รักษาการผูกขาดของตัวเองเอาไว้ อามิต เมห์ตา เมห์ตา ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ พวกเขาละเมิดมาตราที่ 2 ของกฎหมายเชอร์แมน การตัดสินใจของผู้พิพากษาศาลแขวงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นการโจมตีธุรกิจที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของกูเกิลอย่างบริการเสิร์จเอนจิน
โดยพวกเขาถูกกล่าวหาว่า จ่ายเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ให้บริษัทเทคโนโลยี เพื่อทำสัญญาเอ็กซ์คลูซีฟ ให้กูเกิลเป็นเป็นบริการค้นหาเริ่มต้นบนสมาร์ทโฟนและเว็บเบราว์เซอร์ต่างๆ สัญญาเหล่านั้นทำให้กูเกิลสามารถกันบริการค้นหาที่อาจเป็นคู่แข่งอย่าง บิง (Bing) และ ดั๊กดั๊กโก (DuckDuckGo) ของไมโครซอฟท์ออกไปได้ ผู้พิพากษาเมห์ตาระบุว่า การอยู่ในสถานะที่ทรงอำนาจซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันเช่นนี้ ต้องหยุดลง
โดยเฉพาะข้อตกลงจำเพาะกับบริษัท แอปเปิล (Apple) กับผู้เล่นรายสำคัญอื่นๆ ในตลาดโทรศัพท์มือถือ นอกจากนั้น กูเกิลยังเก็บค้าโฆษณาบนเสิร์จเอนจินในราคาสูง ซึ่งสะท้อนถึงอำนาจการผูกขาดของพวกเขาในบริการค้นหาด้วย ถึงแม้ว่าศาลจะไม่พบว่ากูเกิลผูกขาดโฆษณาบนเสิร์จเอนจิน แต่คดีนี้ถือเป็นคดีต่อต้านการผูกขาดที่ใหญ่ที่สุดที่ฟ้องร้องโดยรัฐบาลสหรัฐฯ นับตั้งแต่การฟ้องร้องบริษัทไมโครซอฟท์ในช่วงเข้าสู่ปี ค.ศ.2000 กรณีที่พวกเขานำเว็บเบราว์เซอร์ Internet Explorer ไปรวมอยู่กับระบบปฏิบัติการ Windows เพื่อหวังกีดกันคู่แข่ง และนี่ยังนับเป็นการแพ้คดีต่อต้านการผูกขาดคดีที่ 2 ของกูเกิล หลังจากเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน คณะลูกขุนศาลรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนีย ตัดสินว่า กูเกิลกระทำการผูกขาดอย่างผิดกฎหมายด้วยบริการแอพสโตร์ของพวกเขา แต่ศาลยังอยู่ระหว่างการพิจารณาหาวิธีแก้ไขให้ถูกต้อง ทั้งนี้คาดกันว่า คำตัดสินของผู้พิพากษาเมห์ตา จะทำให้เกิดกระบวนการแยกต่างหาก เพื่อตัดสินบทลงโทษที่กูเกิลจะต้องเผชิญ ซึ่งแน่นอนว่าว่าหลังจากนั้นกูเกิลจะยื่นอุทธรณ์เพื่อคัดค้านคำตัดสินแน่ๆ