Intel ขาดทุนหนัก ทำให้จ่อปลดพนักงาน 15,000 คนทั่วโลก เพื่อลดต้นทุน
พักนี้บริษัทใหญ่ๆของโลกพากันปลดพนักงานกันมากขึ้น ล่าสุดก็ถึงคิวของ Intel (อินเทล) บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานมากกว่า 15% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อพยายามลดต้นทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐและหวังพลิกฟื้นธุรกิจ เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่ประสบความสำเร็จมากกว่าอย่างเช่น Nvidia และ AMD ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างใหม่ที่ประกาศเมื่อวันที่ 1 ส.ค. บริษัทจะเลิกจ้างพนักงานประมาณ 15,000 คน จากที่มีอยู่ 124,800 คน
เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดต้นทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาท ในปี 2025 การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทรายงานการขาดทุน 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.6 หมื่นล้านบาท) ในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. เมื่อเทียบกับกำไร 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.3 หมื่นล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แพต เกลซิงเกอร์ ซีอีโอของ Intel Corp กล่าวในบันทึกถึงพนักงานว่า พูดอย่างง่าย ๆ ก็คือ เราต้องปรับโครงสร้างต้นทุนให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานใหม่
และเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการของเราโดยพื้นฐาน เขาเสริมว่า รายได้ของเราไม่ได้เติบโตอย่างที่คาดไว้ และเรายังไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทรนด์ที่ทรงพลัง เช่น ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ต้นทุนของเราสูงเกินไป อัตรากำไรของเราต่ำเกินไป เราจำเป็นต้องมีการดำเนินการที่กล้าหาญกว่านี้เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งสองอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากผลทางการเงินและแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
ซึ่งยากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ผลประกอบการที่แย่ลงยังทำให้เกิดการเทขายหุ้นของ Intel จนมูลค่าร่วงลงเกือบ 20% Intel ซึ่งเคยเป็นผู้นำตลาดชิปที่ใช้ในทุกอย่างตั้งแต่แล็ปท็อปไปจนถึงศูนย์ข้อมูล Data Center ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะดิ้นรนเพื่อก้าวให้ทัน Nvidia และ AMD ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์