ม็อบประท้วงผลการเลือกตั้งในเวเนซุเอลา ในขณะที่ชาติละตินอเมริการ้องขอให้นับคะแนนใหม่
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลาในวันนี้ (30 กรกฏาคม 2567) ว่าชาวเวเนซุเอลาจำนวนมากรวมตัวเดินขบวนไปตามท้องถนน โดยมีจุดหมายคือทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงการากัส เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่มวลชนเผชิญกับการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง
ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซุเอลาประกาศผลอย่างเป็นทางการ ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ซึ่งมีการลงคะแนนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร วัย 61 ปี จากพรรคสหสังคมนิยม ได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด 51.2% รักษาตำแหน่งผู้นำเวเนซุเอลาเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่ปี 2556 และการชนะเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้มาดูโรยังคงอยู่ในตำแหน่งต่ออีก 6 ปี หรือจนถึงปี 2574
ขณะที่คู่แข่งเพียงคนเดียว คือ นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ อูร์รูเตีย อดีตนักการทูตวัย 74 ปี ซึ่งลงสมัครในนามอิสระแต่ได้รับความสนับสนุนจากฝ่ายค้าน ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 44.2% อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฝ่ายค้านประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยยืนยันว่า กอนซาเลซ อูร์รูเตีย ได้รับเสียงสนับสนุนประมาณ 73% และจะร้องเรียนตามกระบวนการอย่างถึงที่สุด
ด้านนานาประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกาแสดงความวิตกกังวล และเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ อย่างเปิดเผยทุกคะแนน สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับมาดูโร ซึ่งประกาศเรียกเอกอัครราชทูตเวเนซุเอลากลับจาก อาร์เจนตินา ชิลี คอสตาริกา ปานามา เปรู โดมินิกัน และปารากวัย ส่วนสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) สหภาพยุโรป ( อียู ) และสหรัฐ แสดงความวิตกกังวลต่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เม็กซิโก แสดงความยินดีกับมาดูโร จีน รัสเซีย และคิวบา แสดงความยินดีกับมาดูโร