'ปลาหมอมายัน' ปลาต่างถิ่นตัวร้าย คุกคามแหล่งน้ำธรรมชาติไทย ไม่แพ้ 'ปลาหมอคางดำ'
เมื่อวานนี้ วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วังกุ้งของนายอดิศร จันทร์สุขสวัสดิ์ เจ้าของร้านอาหาร ก.แต ในจังหวัดสมุทรปราการ หลังพบปลาหมอมายันและปลาหมอคางดำจำนวนมากในบ่อเลี้ยงกุ้ง สร้างความกังวลถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศและอาชีพเกษตรกร
จากการสำรวจพบลูกปลาหมอคางดำจำนวนมากเกาะกลุ่มอยู่ริมตลิ่ง และเมื่อทดลองสุ่มทอดแหก็พบทั้งปลาหมอคางดำและปลาหมอมายันตัวใหญ่หลายตัว ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงการผสมพันธุ์และการขยายพันธุ์ของปลาต่างถิ่นที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว
นายอดิศร เจ้าของวังกุ้ง กล่าวว่า ปลาทั้งสองชนิดนี้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ โดยกัดกินลูกกุ้ง ลูกปู และลูกหอยแครง ซึ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นและสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก
นายไพบูรณ์ กิมยงค์ เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่าปลาหมอคางดำสร้างความเสียหายมากกว่าปลาหมอมายัน เนื่องจากขยายพันธุ์ได้เร็วกว่า แต่ปลาหมอมายันก็สร้างปัญหาไม่แพ้กัน โดยเกษตรกรได้ทดลองผ่าท้องปลาทั้งสองชนิด และพบว่าปลาหมอมายันมีลำไส้ยาวประมาณ 2 เท่าของลำตัว ในขณะที่ปลาหมอคางดำมีลำไส้ยาวถึง 4-5 เท่าของลำตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาหมอคางดำขยายพันธุ์ได้เร็วกว่า
นอกจากนี้ เกษตรกรยังพบว่าปลาหมอมายันมีเนื้อและเกล็ดที่อ่อนนุ่มกว่าปลาหมอคางดำ ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความแตกต่างในการขยายพันธุ์
ปลาหมอมายันและปลาหมอคางดำ: ปลาต่างถิ่นที่สร้างปัญหาให้กับระบบนิเวศไทย
ปลาหมอมายัน (Mayan cichlid) และปลาหมอคางดำ (Blackchin tilapia) เป็นปลาต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้ตั้งใจ ปลาทั้งสองชนิดมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ และมีลักษณะคล้ายคลึงกัน คือ เป็นปลากินเนื้อ มีความสามารถในการปรับตัวและขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว ดูผ่านๆก็ดูเหมือนปลาหมอลายเสือไทยดีเหมือนกัน
การแพร่ระบาดของปลาต่างถิ่นเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งน้ำในประเทศไทย เนื่องจากปลาเหล่านี้กินปลาพื้นเมืองเป็นอาหาร ทำให้ประชากรปลาพื้นเมืองลดลง นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่ออาชีพประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากปลาต่างถิ่นแย่งอาหารและพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำเศรษฐกิจ
ข้อเสนอแนะจากเกษตรกร
เกษตรกรในพื้นที่เรียกร้องให้หน่วยงานประมงจังหวัดสมุทรปราการเข้ามาให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับปลาต่างถิ่นเหล่านี้แก่เกษตรกร รวมถึงขอให้มีการตั้งหน่วยรับซื้อปลาทั้งสองชนิดในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการกำจัดปลาต่างถิ่นและลดความเสียหายที่เกิดขึ้น
ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา
การแก้ไขปัญหาปลาต่างถิ่นเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป โดยภาครัฐควรมีมาตรการในการควบคุมการนำเข้าและการแพร่กระจายของปลาต่างถิ่นอย่างเข้มงวด รวมถึงส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อหาวิธีการกำจัดปลาต่างถิ่นที่มีประสิทธิภาพ
ภาคเอกชนและประชาชนควรตระหนักถึงผลกระทบของปลาต่างถิ่น และไม่ควรปล่อยปลาต่างถิ่นลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ นอกจากนี้ ควรร่วมมือกับภาครัฐในการกำจัดปลาต่างถิ่นที่พบเห็น เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย
ภาพ : x.com