ขนม ช็อกโกพาย เป็นขนมที่คนในเกาหลีเหนือ ยอมตายเพื่อได้กินมัน
ชองกินอร่อยๆใครก็อยากกิน ยิ่งถ้ามันหายากมันก็ยิ่งมัค่ามากขึ้น โดยเฉพาะในเกาหลีเหนือ โดยต้องย้อนกลับไปในยุคหนึ่งที่เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้อยู่ในช่วงเจริญสัมพันธไมตรีกัน ทำให้ร่วมกันก่อตั้งโรงงานเกซองตรงพรมแดนของทั้งสองประเทศขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าต้องให้เจ้าของโรงงานเกาหลีใต้สามารถจ้างแรงงานเกาหลีเหนือทำงาน ซึ่งมันก็ถือว่าวินวินทั้งสองฝ่าย เจ้าของโรงงานเกาหลีใต้ให้ช็อกโกพายเป็นของว่างกับคนงานเกาหลีเหนือ ไม่ใช่เพราะอยากโปรโมทขนม แต่เพราะมันเป็นของหาง่ายราคาถูกในเกาหลีใต้
แต่ปรากฏว่าแรงงานเกาหลีเหนือชอบกินเจ้าขนมตัวนี้กันมาก ยอมทำงานหนัก ทำโอทีเพื่อให้เจ้าของโรงงานจ่ายค่าแรงโอทีเป็นช็อกโกพาย บางคนก็เอาไปฝากครอยครัว บางคนก็นำไปขายต่อ หลังจากนั้นไม่นานขนมช็อกโกพายก็ได้รับความนิยมมากอย่างรวดเร็ว จนทำให้รัฐบาลของเกาหลีเหนือต้องสั่งแบนห้ามนำเข้าชนมชนิดนี้เข้าประเทศ อีกทั้งยังสั่งปิดโรงงานนั้นลงด้วย ทำให้ขาดแคลนช็อกโกพายกันเป็นอย่างมากจนราคาพุ่งสูงปรี๊ด ช็อกโกพายจึงกลายเป็นอาหารสุดหรูมีค่าดั่งทองในเกาหลีเหนือ
และในตอนนั้นเกาหลีเหนือคือขาดแคลนอาหารมากประชาชนแทบจะไม่มีอะไรกิน หยิบจับอะไรได้ตามพื้นก็จะหยิบขึ้นมากินเลย และแน่นอนว่ามีคนเสียชีวิตจากการขาดอาหารเยอะมาก ต่อมาเมื่อคนเกาหลีใต้ทราบเรื่องนี้ จึงคิดเอาลูกโป่งมามัดกับช็อกโกพาย แล้วลอยลูกโป่งไปเพื่อความหวังที่ว่า อย่างน้อย ๆ ลูกโป่งช็อกโกพายนี้จะไปตกลงที่เกาหลีเหนือ ซึ่งแน่นอนว่าเขานำลูกโป่งนี้ไปลอยใกล้ ๆ แถวเขตแดน ซึ่งในตอนนั้นก็มีทหารเกาหลีเหนือที่ยิงลูกโป่งจนแตกและสั่งห้ามกิน ซึ่งช็อกโกพายมันเป็นขนมที่โด่งดังมาก ๆ ของเกาหลีใต้ และข่าวความนิยมช็อกโกพายของเกาหลีใต้นั้น ก็ไม่อาจเล็ดลอดไปจากหูตาของรัฐบาลเกาหลีเหนือได้
ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือได้มีการประชาสัมพันธ์โฆษณา ถึงโทษและพิษภัยที่มีต่อร่างกายในการบริโภคขนม ช็อกโกพาย ว่ามีผลเสียต่อร่างกายอย่างไร จะเห็นได้ว่าพวกขนมที่อาจดูดาษดื่น ธรรมดาในสังคมเรา แต่ในเกาหลีเหนือมันกลับมีความหมาย และอร่อยล้ำค่าที่สุดในชีวิตของพวกเขา สามารถสะท้อนให้เห็นถึงทางเลือกในการบริโภคที่มีจำกัดของเกาหลีเหนือได้ และยังสามารถสะท้อนไปถึงในอีกหลายด้าน และในปัจจุบันเกาหลีเหนือก็ได้มีการพยายามลอกเลียนแบบช็อกโกพายของเกาหลีใต้มาแล้วแต่ว่าไม่อร่อยเท่า