ชายอินเดียคนหนึ่งรอดชีวิตจากการติดอยู่ในลิฟต์ 42 ชั่วโมง โดยไม่ได้กินอาหารและน้ำ
รวินดราน แนร์ ชายวัย 59 ปี จากรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย ได้ติดอยู่ในลิฟท์ของโรงพยาบาลเป็นเวลา 42 ชั่วโมง โดยเขาเข้าไปในลิฟต์เพื่อพบแพทย์ในบ่ายวันเสาร์ จากนั้นเขาจึงติดอยู่ข้างในจนถึงเช้าวันจันทร์ เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นข่าวพาดหัว ส่งผลให้รัฐบาลสั่งพักงานช่างเทคนิค 3 คน เจ้าหน้าที่จากวิทยาลัยการแพทย์ของรัฐบาลติรุวนันตปุรัม และรัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐได้ออกมาขอโทษนายแนร์แล้ว
นายแนร์บอกกับทาง BBC ว่า ตอนที่เขาติดอยู่ภายในลิฟต์ เขาพยายามโทรไปยังหมายเลขฉุกเฉินที่ระบุไว้ในลิฟต์ แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ นอกจากนี้ เขายังพยายามโทรหาภรรยาของเขาซึ่งทำงานอยู่ในโรงพยาบาล และใครก็ตามที่เขานึกออก แต่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย
“ผมเริ่มตื่นตระหนกและเคาะประตูลิฟต์เพื่อเรียกความสนใจ แต่แล้วโทรศัพท์ของผมก็ตกลงบนพื้นและหยุดทำงาน” เขากล่าว
“ผมตะโกนกรีดร้องขอความช่วยเหลือ และพยายามดึงประตูออกด้วยมือของผม ภายในลิฟท์มืดไปหมดแต่ก็โชคดีที่ยังมีอากาศหายให้ใจ”
จากนั้นเขาก็เดินไปรอบๆ ลิฟต์ กดกริ่งแจ้งเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังว่ามันจะดังและดึงดูดความสนใจของใครสักคน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
“เมื่อเวลาผ่านไป ผมไม่รู้เลยว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืน เพราะข้างในมืดมาก พอผมเหนื่อย ผมก็ไปนอนที่มุมหนึ่ง ผมต้องไปอีกมุมหนึ่งเพื่อฉี่และอึ” เขากล่าว
นายแนร์ กล่าวว่า เขาเริ่มไปโรงพยาบาลเป็นประจำเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่เขาล้มในห้องน้ำและเริ่มมีอาการปวดหลัง
“วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมและภรรยาไปพบคุณหมอ และได้ทำการเอ็กซเรย์หลัง เพราะผมมีอาการปวดอย่างรุนแรงหลังจากเดินทางเมื่อเร็วๆ นี้” เขาเล่า เขาลืมผลตรวจเลือดไว้ที่บ้าน และนายแนร์จึงอาสากลับไปเอาเอง เพราะภรรยาของเธอต้องกลับไปทำงาน โดยปกติเมื่อเขาไปโรงพยาบาล เขาและภรรยาจะใช้ลิฟต์ที่มีไว้สำหรับพนักงาน แต่คราวนี้เขาขึ้นลิฟต์หมายเลข 11 ซึ่งมีไว้สำหรับคนไข้และผู้มาเยี่ยม เพื่อขึ้นไปยังชั้นสอง
“ตอนนั้นก็เลยเที่ยงไปแล้ว ไม่มีใครอยู่ในลิฟต์เลย แต่ไฟยังเปิดอยู่ ผมเลยคิดว่าไม่มีอะไรผิดปกติ” เขากล่าว
เขากดปุ่มแล้วลิฟต์ก็เริ่มขึ้นไปแต่พอใกล้ถึงชั้นสอง ลิฟต์ก็พุ่งลงมาอย่างแรง และลิฟท์ก็ติดอยู่ระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสอง เขาต้องกินยาควบคุมความดันโลหิต แต่ก็ไม่สามารถกินได้เพราะไม่มีน้ำ
"ผมพกมันติดตัวอยู่แต่กลืนไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ และปากก็แห้งจากการตะโกนขอความช่วยเหลือ" เขาเล่า
“ผมเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะต้องตายในลิฟต์หรือไม่ ผมเป็นห่วงภรรยาและลูกๆ และคิดถึงพ่อแม่ และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว แต่แล้วผมก็พยายามบังคับตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น และบอกกับตัวเองว่าผมต้องเอาชนะการทดสอบที่น่ากลัวนี้ให้ได้”
เขาบอกว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจคือการได้อ่านบทกวีที่ภรรยาเขียน
"ผมหวังว่าจะมีคนมาซ่อมลิฟต์และพบผมที่นั่น" ในที่สุดความช่วยเหลือก็มาถึงในเช้าวันจันทร์ เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น เ้จาหน้าที่เปิดประตูลิฟต์และช่วยเขาออกมาจากสถานการณ์อันเลวร้ายที่เขาต้องเผชิญถึง 42 ชั่วโมง หลังจากที่นายแนร์ได้รับการช่วยเหลือ สิ่งแรกที่เขาทำคือโทรหาภรรยาของเขาซึ่งไม่รู้เลยว่าสามีที่หายตัวไปของเธอติดอยู่ในสถานที่ทำงาน
“เขาต้องการให้ฉันมาพาเขากลับบ้าน” เธอกล่าว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โรงพยาบาลก็ได้ติดคำเตือนไว้หน้าลิฟต์เพื่อขอให้ผู้คนไม่ใช้งานลิฟต์ในระหว่างที่กำลังซ่อมแซม
ขณะนี้นายแนร์อยู่ในโรงพยาบาล และกำลังเข้ารับการรักษาอาการขาดน้ำ และอาการปวดหลังหลังจากที่ผ่านพ้นสถานการณ์อันเลวร้าย