สหรัฐตัดสินจำคุกนักธุรกิจชาวจีน หลังฉ้อโกงลูกค้ากว่า 36,000 ล้านบาท
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในวันนี้ (17 กรกฏาคม 2567) ว่านายกัว เหวินกุ้ย นักธุรกิจชาวจีนผู้มั่งคั่ง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามของเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลปักกิ่ง ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกงลูกค้า เป็นจำนวนเงินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 36,000 ล้านบาท
โดย กัว นำเสนอตัวเองว่าเป็นนักวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างดุเดือด และเป็นผู้ปกป้องประชาธิปไตยอย่างกระตือรือร้น แต่ขณะเดียวกัน เขาก็มีความเชื่อมโยงกับนายสตีฟ แบนนอน นักธุรกิจฝ่ายขวาชาวสหรัฐ ที่เพิ่งถูกจำคุกในอีกคดีหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเดือน มี.ค. 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) เข้าจับกุมกัว ที่อพาร์ตเมนต์หรูของเขา ในเขตแมนฮัตตัน โดยกล่าวหาว่า กัวใช้ชื่อเสียงทางออนไลน์ของเขา เพื่อโน้มน้าวนักลงทุนหลายพันคน ช่วยจัดหาเงินทุนให้กับบริษัท หรือโครงการต่าง ๆ ของเขา ทว่าในเวลาต่อมา เงินทุนของพวกเขากลับทำให้กัว ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย ขณะที่ลูกค้าของเขาไม่ได้ร่ำรวยขึ้นแต่อย่างใด กัว นักธุรกิจชาวจีนที่ลี้ภัย และอ้างว่าเป็นมหาเศรษฐี ดำเนินแผนการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกันหลายแผนการอย่างโจ่งแจ้ง
ซึ่งทุกแผนการถูกออกแบบมาเพื่อขูดรีดเงินที่หามาอย่างยากลำบาก จากผู้ติดตามที่ภักดีของเขา เพื่อทำให้กัวสามารถใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ขนาด 50,000 ตารางฟุต, ขับรถยนต์ยี่ห้อแลมโบกินีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 36 ล้านบาท หรือพักผ่อนบนเรือยอชท์มูลค่า 37 ล้านดอลลาร์สหรัหรือประมาณ 1,331 ล้านบาท อัยการ กล่าว นอกจากนี้ ขณะลูกขุนยังลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า กัวมีความผิดในข้อหาสมรู้ร่วมคิดขู่กรรโชกเงิน และฉ้อโกงหลักทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงการฉ้อโกงผ่านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และการฟอกเงิน ซึ่งเขาต้องเผชิญกับโทษจำคุกหลายสิบปี