ร้อนดีนัก ใช้รถอบเค้กมันซะเลย
ด้วยความที่อากาศร้อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ คนจึงใช้ความร้อนนั้นทำโน่นทำนี่มันเลย อย่างเช่นเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2567 เฟซบุ๊กเพจของอุทยานแห่งชาติซากัวโรในเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา ได้โพสต์ภาพชุดพร้อมข้อความบรรยายการทดลองทำอาหารด้วยแสงแดดล้วน ๆ ท่ามกลางอากาศร้อนจัดในพื้นที่ การทำอาหารในครั้งนี้เป็นการอบขนมเค้กกล้วยหอม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ผู้ทำการทดลองนำแป้งขนมที่ผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วใส่ลงในพิมพ์ขนม 2 ชิ้น จากนั้นก็นำไปวางไว้บนแดชบอร์ดด้านหน้าในห้องโดยสาร เพื่อให้รับแสงแดดได้อย่างเต็มที่ แล้วถ่ายภาพความเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ๆ พร้อมกับบันทึกอุณหภูมิขณะนั้นเอาไว้ด้วย
การอบขนมเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น. อุณหภูมิด้านนอกรถอยู่ที่ 97 องศาฟาเรนไฮต์หรือประมาณ 36.1 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิภายในห้องโดยสารรถยนต์ ตรงแดชบอร์ด อยู่ที่ 163 องศาฟาเรนไฮต์หรือประมาณ 72.7 องศาเซลเซียส เมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง 14.00 น. อุณหภูมิด้านนอกรถอยู่ที่ 105 องศาฟาเรนไฮต์หรือประมาณ 40.5 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิภายในห้องโดยสารรถยนต์อยู่ที่ 211 องศาฟาเรนไฮต์หรือประมาณ 99.4 องศาเซลเซียส ซึ่งเทียบเท่าได้กับอุณหภูมิในเตาอบที่เริ่มอุ่นแล้ว เมื่อถึงตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าขนมเค้กเริ่มกลายเป็นสีทองและเนื้อขนมฟูขึ้นจนแทบจะล้นพิมพ์ออกมา เมื่อถึงเวลา 15.00 น.
เหล่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็นำขนมเค้กออกมาจากรถและพบว่าผิวภายนอกของขนมกลายเป็นสีน้ำตาลคล้ายกับขนมที่สุกแล้ว แต่เนื้อขนมข้างในยังแฉะอยู่เล็กน้อย ในโพสต์ยังระบุว่า หลังจากที่พวกเขาทดลองทำอาหารด้วยแสงแดดอันร้อนแรงบนหลังรถไปหลายอย่าง ก็สรุปได้ว่าคุกกี้ คืออาหารที่ใช้แสงแดดในสหรัฐตอนนี้ช่วยทำให้สุกได้ดีที่สุด
นอกจากนี้ ในโพสต์ยังเขียนคำเตือนว่าในระหว่างที่อากาศร้อนจัดเช่นนี้ ประชาชนไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงหรือเด็กอยู่ในรถตามลำพัง ถ้าหากได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กหรือเสียงเห่าของสุนัข ควรให้ความช่วยเหลือในทันที เพราะการติดอยู่ในรถท่ามกลางอากาศร้อนขนาดนี้เพียง 10-20 นาทีก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้นั่นเอง