ที่มา Serra Pelada เหมืองทองคำขนาดใหญ่ ในบราซิล

    วันนี้จะขอแนะนำให้รู้จักกับเหมืองทองคำที่ใหญ่ที่สุดเหมืองหนึ่งของโลกนั่นคือ Serra Pelada เหมืองทองคำ ขนาดใหญ่ ในบราซิล ห่างจากปากแม่น้ำอเมซอน ไปทางใต้ 430 กิโลเมตร (270 ไมล์) เหมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงจากภาพนิ่งที่ถ่ายโดย Alfredo Jaar ซึ่งแสดงให้เห็นคนงานกำลังเคลื่อนย้ายแร่จำนวนมากด้วยมือมนุษย์ เนื่องจากการดำเนินการที่วุ่นวาย การประมาณจำนวนคนงานจึงทำได้ยาก แต่เชื่อกันว่ามีคนอย่างน้อย 100,000 คนอยู่ที่นั่น ทำให้เหมืองแห่งนี้เป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ปัจจุบัน เหมือง Serra Pelada ถูกทิ้งร้าง และหลุมเปิดขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ได้เต็มไปด้วยน้ำจนเกิดเป็นทะเลสาบเล็กๆที่มลพิษ ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1980

เกษตรกรชื่อ Genésio Ferreira da Silva ได้จ้างนักธรณีวิทยาเพื่อสืบหาว่าทองคำที่เขาพบในที่ดินของเขาเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งแร่ขนาดใหญ่หรือไม่ และในเวลาเดียวกัน เด็กชายคนหนึ่งกำลังว่ายน้ำอยู่ริมฝั่งแม่น้ำในท้องถิ่นได้พบก้อนทองคำขนาด 6 กรัม (0.21 ออนซ์) ไม่นานข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วว่าพบแหล่งแร่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เมื่อสิ้นสัปดาห์นั้นการตื่นทองก็เริ่มขึ้น โดยมีผู้คนนับพันแห่กันมาเพื่อขุดทอง ห้าสัปดาห์ต่อมา มีคน 10,000 คนอยู่ในที่ดินของ Ferreira และอีก 12,000 คนในบริเวณใกล้เคียง และพบก้อนทองคำก้อนใหญ่ในเวลาอันรวดเร็ว

โดยก้อนที่ใหญ่ที่สุดมีน้ำหนักเกือบ 6.8 กิโลกรัม (15 ปอนด์) มีราคา 108,000 ดอลลาร์สหรัฐตามราคาตลาดในปี 1980 (ปัจจุบันอยู่ที่ 549,900 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2024) ในตอนแรก วิธีเดียวที่จะไปยังพื้นที่ห่างไกลได้คือทางเครื่องบินหรือทางเท้า คนงานเหมืองมักจะจ่ายเงินแพงเกินจริงเพื่อให้แท็กซี่พาพวกเขาจากเมืองที่ใกล้ที่สุดไปยังปลายทางดิน จากนั้นพวกเขาจะต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 15 กิโลเมตร (9 ไมล์) ไปยังสถานที่ก่อสร้าง

เมืองที่เติบโตขึ้นนี้สร้างด้วยวัสดุที่ขนเข้ามาด้วยมือเท่านั้น จึงกลายเป็นกลุ่มของกระท่อมและเต็นท์ที่วางเรียงรายกันอย่างไม่เป็นระเบียบ คนงานเหมืองแต่ละคนมีสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ 2 เมตร (6 ฟุต 7 นิ้ว) คูณ 3 เมตร (9.8 ฟุต) ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1980 มีผู้มีสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ดังกล่าว 4,000 แห่ง ในช่วงต้นของประวัติศาสตร์เหมือง กองทัพบราซิลได้เข้ามาควบคุมการดำเนินงานเพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบคนงานและความขัดแย้งระหว่างคนงานเหมืองกับเจ้าของเหมือง 

ในขณะที่รัฐบาลทหารห้ามผู้หญิงและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในเหมือง เมืองใกล้เคียงได้จัดพื้นที่ให้ผู้หญิงและห้ามนำสิ่งของเข้ามา ผู้หญิงและเด็กสาวอายุต่ำกว่าเกณฑ์หลายพันคนค้าประเวณีเพื่อแลกกับทองคำ มีการฆาตกรรมที่ยังไม่คลี่คลายประมาณ 60–80 คดีที่เกิดขึ้นในเมืองนั่นเอง