บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BYD สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในตุรกี
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าว Anadolu ของทางการตุรกีเมื่อวานนี้ (9 กรกฏาคม 2567) ว่า โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ของ BYD ในตุรกี ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ปีละถึง 150,000 คัน และคาดว่าจะสามารถสร้างงานได้ถึงประมาณ 5,000 ตำแหน่ง และจะเริ่มผลิตรถยนต์ EV ได้ในปลายปี 2026
พิธีลงนามในข้อตกลงสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ในตุรกี มีขึ้นที่นครอิสตันบูล เมืองใหญ่สุดของประเทศตุรกี โดยมีประธานาธิบดีเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน แห่งตุรกีร่วมในพิธีลงนามกับ นายหวัง ชวนฟู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของ BYD สำหรับการบรรลุข้อตกลงสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ของ BYD ในตุรกี มีขึ้นขณะที่บรรดาบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน กำลังเผชิญกับความกดดันมากขึ้นในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหภาพยุโรป(EU) เพิ่งประกาศขึ้นกำแพงภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เพื่อหวังปกป้องอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป โดยการตัดสินใจดังกล่าวของ EU ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ต้องเสียภาษีพิเศษ ถึง 17.4 %ในการขนส่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนเข้ามาขายในสหภาพยุโรป ในขณะที่ตุรกี เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพศุลกากรของสหภาพยุโรป ซึ่งหมายถึงรถยนต์ที่ผลิตในตุรกีและส่งออกไปขายในตลาดยุโรป สามารถหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น รัฐบาลตุรกียังมีมาตรการสนับสนุนบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศด้วยการตั้งกำแพงภาษี รถยนต์ที่นำเข้าจากจีนต้องเสียภาษีพิเศษถึง 40% ก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤษภาคม 2567 รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ เหล็ก และสินค้าอื่นๆ ที่ผลิตในจีน โดยทำเนียบขาวแถลงว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นภาษีรถยนต์นำเข้าจากจีนถึง 100% เพื่อตอบโต้นโยบายที่ไม่เป็นธรรมและตั้งใจที่จะปกป้องแรงงานในสหรัฐฯ ทั้งนี้ บริษัท BYD ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนในสหรัฐฯ เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ EV รายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากบริษัทเทสลา ของอีลอน มัสก์ นั่นเอง