ค้นพบกิ้งก่ามหึมา! นักล่าก่อนยุคไดโนเสาร์ ยาว 2.5 เมตร ฟันแหลมคม เผยวิวัฒนาการสัตว์สี่ขาในอากาศหนาว
กรุงวินด์ฮุก - สร้างความฮือฮาให้กับวงการโบราณคดี เมื่อมีการค้นพบซากฟอสซิลกิ้งก่าขนาดมหึมาในประเทศนามิเบีย ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา คาดว่ามีความยาวลำตัวถึง 2.5 เมตร มาพร้อมกะโหลกศีรษะยักษ์ยาว 60 เซนติเมตร เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันน่าจะเป็นนักล่าชั้นยอดที่ครองความเกรงขามในยุคก่อนไดโนเสาร์ครองโลก
รายละเอียดการค้นพบครั้งพลิกโฉมประวัติศาสตร์นี้ ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Nature โดยคณะนักโบราณคดีที่ขุดพบซากฟอสซิลกิ้งก่าโบราณชนิดนี้ในประเทศนามิเบีย กะโหลกศีรษะของมันมีความยาวมหึมาถึง 60 เซนติเมตร คิดเป็นความยาวโดยรวมของลำตัวกิ้งก่าตัวนี้ประมาณ 2.5 เมตร ฟอสซิลกิ้งก่าโบราณนี้ถูกตั้งชื่อว่า "Giaasia jennyae"
"Giaasia jennyae" ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2558 ปัจจุบันมีการค้นพบซากฟอสซิลที่ไม่สมบูรณ์ของมันถึง 4 ตัว ลักษณะเด่นของกิ้งก่าชนิดนี้คือ กะโหลกศีรษะแบนราบขนาดใหญ่ คล้ายรูปทรงฝารองนั่งชักโครก เต็มไปด้วยเขี้ยวขนาดมหึมาบริเวณปาก จากลักษณะโครงสร้างเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานว่า "Giaasia jennyae" น่าจะใช้กลยุทธ์การล่าเหยื่อแบบซุ่มโจมตี รอให้เหยื่อเข้าใกล้แล้วจึงจู่โจมฉับไว คล้ายกับพฤติกรรมการล่าของจระเข้ ด้วยขนาดและความน่าสะพรึงกลัวของมัน "Giaasia jennyae" จึงถูกคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นนักล่าที่ครองความเกรงขามบนห่วงโซ่อาหารในยุคก่อนที่เหล่าไดโนเสาร์จะเข้ายึดครองโลก
นอกจากความยิ่งใหญ่ของตัวกิ้งก่า "Giaasia jennyae" เองแล้ว สถานที่ค้นพบฟอสซิลของมันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นามิเบียในยุค 300 ล้านปีก่อน มีละติจูดที่สูงกว่าปัจจุบัน เกือบจะทับซ้อนกับละติจูดของปลายสุดทางตอนเหนือของทวีปแอนตาร์กติกาในปัจจุบัน การค้นพบครั้งนี้จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า สัตว์สี่ขาสามารถดำรงชีวิตและวิวัฒนาการในสภาพอากาศหนาวเย็นได้เร็วกว่าที่นักวิทยาศาสตร์เคยคาดการณ์ไว้มาก
การค้นพบ "Giaasia jennyae" นี้ จึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่หน้าต่างบานใหม่ในอดีต ช่วยให้เราเข้าใจถึงระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารในยุคก่อนไดโนเสาร์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น กระตุ้นให้เกิดการศึกษาและค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตโบราณที่น่าทึ่งเหล่านี้ในอนาคต