ตำนานเทพธิดาที่มีชีวิตของชาวเนปาล

เนปาลในฐานะที่เป็นแหล่งกำเนิดของพุทธศาสนา มีบรรยากาศทางศาสนาและวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และมีประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์มากมาย หนึ่งในนั้นคือ กุมารี เทพธิดาผู้มีชีวิตจริงของชาวเนปาล ที่มีสถานะสูงกว่ากษัตริย์

ที่มาของประเพณีนี้เล่าต่อกันมาว่า ในศตวรรษที่ 17 เทพธิดา Taleju เป็นนักบุญอุปถัมภ์ของราชวงศ์มัลลา(Malla)ในเนปาล เธอได้รับการบูชาจากศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา และทรงอวยพรให้ผู้คนมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง

กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์มัลลาและเทพธิดา Taleju มักจะเล่นเกมลูกเต๋าด้วยกัน เทพธิดาบอกกับกษัตริย์ว่าห้ามให้มนุษย์คนอื่นๆ เห็นเธอ แต่มนุษย์ทุกคนมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ทุกคนต่างอยากเห็นเทพธิดา Taleju ผู้ลึกลับ ครั้งหนึ่งพระราชินีจึงแอบติดตามพระราชาและได้เห็นพระพักตร์ที่แท้จริงของเทพธิดา ทำให้เทพธิดาโกรธมากและต้องการออกจากประเทศ ไม่อวยพรเนปาลอีกต่อไป พระราชาทรงหวาดกลัวและทรงขอร้องให้เทพธิดาประทับอยู่ที่เนปาล เมื่อเห็นว่าพระราชาทรงขอร้อง เทพธิดาจึงไม่ใจร้ายนัก ยอมอยู่โดยจะเข้าครอบครองร่างของหญิงสาวจากตระกูลศากยมุนี กษัตริย์จะต้องตามหาหญิงสาวและเรียกเธอว่า กุมารี ดังนั้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์มัลลาจนถึงปัจจุบัน ประเพณีของเทพธิดาที่มีชีวิตจึงมีอยู่ ผู้คนเชื่อว่าเทพธิดาที่มีชีวิตสามารถสร้างความสงบสุข และปกป้องพวกเขาให้มีความสุข

เนื่องจากกุมารี เป็นร่างอวตารของเทพธิดา Taleju หญิงสาวที่ได้รับเลือกให้เป็นกุมารีจะต้องเป็นหนึ่งในล้าน ดังนั้นการคัดเลือกกุมารีจึงมีข้อกำหนดที่สูงมากในด้านชาติกำเนิด รูปร่างหน้าตา และบุคลิกภาพ คำว่ากุมารี ซึ่งในภาษาเนปาล แปลว่า พรหมจารี ดังนั้น หลังจากที่กุมารีมีประจำเดือนแล้ว เธอจะไม่เป็นกุมารีอีกต่อไปและจะต้องมองหากุมารีคนใหม่มาแทน

ก่อนอื่นเพราะเทพธิดา Taleju บอกว่าเธอจะครอบครองหญิงสาวจากตระกูลศากยมุนี กุมารีจึงต้องมาจากตระกูลนี้ นอกจากนี้บรรพบุรุษของครอบครัวนี้ทุกคนจะต้องสะอาดและไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่เพียงเท่านั้น บรรพบุรุษของเธอและตัวเธอเองยังต้องอาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบักมาตีและแม่น้ำวิสนุติ แม่น้ำสองสายนี้เรียกว่าแม่น้ำแม่ของประเทศเนปาลและเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์สองสาย แม่น้ำทั้งสองสายจะชำระล้างจิตวิญญาณของผู้คนและทำให้พวกเขาบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

กุมารีจะต้องสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมของเธอจะต้องเป็นสีดำมันเงา ดวงตาของเธอจะต้องเป็นสีดำสนิท ขนตาของเธอต้องยาวและสวยงาม คอของเธอจะต้องเนียน ลำตัวของเธอจะต้องตรงและไม่ง่อนแง่น และแขนขาของเธอจะต้องยาวและเรียว เพียงรูปลักษณ์ภายนอกของเธอก็จะทำให้ผู้คนยกย่องเธอในฐานะเทพธิดาและบนร่างกายของกุมารีไม่ควรมีรอยแผลเป็น ไม่มีตำหนิ ไม่มีเลือดออก หรือแม้แต่ความเจ็บป่วย เคยมีกุมารีถูกไล่ออกจากตำแหน่งเนื่องจากเธอติดเชื้อไข้ทรพิษหนึ่งปีหลังจากเข้ารับตำแหน่ง

เครื่องแต่งกายของ กุมารี ก็ซับซ้อนและหนัก เสื้อผ้าของเธอควรจะเป็นสีแดง และเครื่องประดับผมของเธอควรจะเป็นสีเงิน เวลาเก้าโมงทุกวันเธอจะนั่งบนบัลลังก์ทองคำและรับสักการะของผู้คน เวลาสิบสองนาฬิกาและหกโมงของทุกวันเธอจะอยู่ที่หน้าต่างให้คนมาสักการะ

กุมารีสามารถออกไปข้างนอกได้ปีละสิบสามครั้งเท่านั้น นั่นคือขบวนพาเหรดสิบสามครั้ง ซึ่งก่อนที่ออกไปรับการสักการะของผู้คน จะต้องทำความสะอาดถนนที่กุมารีผ่านและต้องใช้สุนัขตำรวจเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเธอ จากนั้นกุมารีจึงจะถูกหามไปอวยพรผู้คน ทุกคนจะต้องคุกเข่าลงระหว่างขบวนพาเหรดและไม่สามารถมองตรงไปยังกุมารีได้ตามต้องการ แม้แต่พ่อแม่ของกุมารีและกษัตริย์ก็ไม่มีข้อยกเว้น สถานะของเทพธิดาที่มีชีวิตในเนปาลนั้นสูงกว่าสถานะของกษัตริย์มาก