NASAเผยอุณหภูมิทั่วโลกสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
ผลการวิเคราะห์จากองค์การนาซา (NASA) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกช่วง 12 เดือนก่อนในแต่ละเดือนพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"นี่เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเรากำลังประสบวิกฤตสภาพภูมิอากาศ" บิล เนลสัน ผู้บริหารของนาซากล่าว พร้อมเสริมว่าสังคมโลกต่างสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ไม่เคยพบมาก่อน
จากการอ่านค่าอุณหภูมิจากเครือข่ายสถานีตรวจอากาศขนาดใหญ่บนบกและอุปกรณ์ในมหาสมุทรพบว่าระดับอุณหภูมิที่พุ่งสูงทะลุสถิติที่บันทึกได้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มการเกิดภาวะโลกร้อนในระยะยาวเนื่องด้วยกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
"เรากำลังเผชิญกับวันที่มีอากาศร้อนมากขึ้น เดือนที่ร้อนมากขึ้น และปีที่ร้อนมากขึ้น" เคท คาลวิน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และที่ปรึกษาอาวุโสด้านสภาพอากาศของนาซากล่าว ซึ่งเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั่วโลก
แนวโน้มอุณหภูมิที่สูงขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดสี่ทศวรรษ โดย 10 ปีที่ผ่านมานี้ที่เป็นช่วง 10 ปีที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกอุณหภูมิในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกไม่ใช่ปัญหาในอนาคตแต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันแล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกึที่กักเก็บความร้อนเพิ่มขึ้นกำลังส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสิ่งแวดล้อม ธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็งกำลังหดตัว น้ำแข็งในแม่น้ำและทะเลสาบกำลังแตกตัวเร็วขึ้น ช่วงการกระจายทางภูมิศาสตร์ของพืชและสัตว์กำลังเปลี่ยนแปลง และพืชและต้นไม้กำลังออกดอกเร็วขึ้น
ผลกระทบที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าเป็นเวลานานว่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกได้กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น การสูญเสียน้ำแข็งในทะเล การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลที่รวดเร็ว และคลื่นความร้อนที่ยาวนานและรุนแรงขึ้น