ตำรวจคุมตัว”ไอ้หนุ่ย”ผัวโหดชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพนาทีใช้มีดแทงเมียจนมีดหัก ก่อนหยิบมีดพร้าฟันหัวเมียซ้ำจนตายคามือ

ตำรวจ

คุมตัว”ไอ้หนุ่ย”ผัวโหดชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพนาทีใช้มีดแทงเมียจนมีดหัก ก่อนหยิบมีดพร้าฟันหัวเมียซ้ำจนตายคามือ

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2567 หลังจากทางตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการคุมตัวนายประยุทธ์ หรือ หนุ่ย อายุ 34ิปี มาถึง สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ทาง พ.ต.ต.สุวิทย์ ทองสุภา สว.(สอบสวน)สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้คุมตัวนายประยุทธ์ หรือ หนุ่ย เดินทางไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อชี้จุดเกิดเหตุยืนยันอย่างละเอียดอีกครั้งและทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณขนำไม่มีเลขที่ภสยในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 4 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อตำรวจคุมตัวนายประยุทธ์หรือหนุ่ยิไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ พบกับทางนางพรทิพย์ ขำอนันต์ อายุ 60 ปี แม่ของนางสาววิจิตรพรฯหรือนาง ผู้เสียชีวิต และญาติซึ่งเดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุเพื่อทำพิธีเชิญวิญญาณของนส.วิจิตรพร ออกจากที่เกิดเหตุกลับบ้านเกิดที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ทางตำรวจสภ.สิชล จึงให้ทางญาติคนตายได้ทำพิธีเชิญวิญญาณจนเสร็จ โดยตลอดเวลาทางญาติคนตายที่เดินทางมาจากจ.สุราษฎร์ธานี มีสีหน้าโกรธแค้นตลอดเวลา แต่ไม่มีเหตุรุนแรงอะไรเกิดขึ้น โดยทางญาติๆของผู้เสียชีวิตต่างเข้าใจเหตุการณ์ท่าเกิดขึ้น โดยนางพรทิพย์ฯแม่ผู้เสียชีวิตถึงกับร่ำไห้ตลอดเวลา และยอมอโหสิกรรมให้กับนายประยุทธ์ ที่ก่อเหตุฆ่าลูกตัวเองในครั้งนี้ ก่อนจะรับศพลูกสาวไปจัดการตามประเพณีที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ต่อมาหลังจากญาติผู้เสียชีวิตเดินทางกลับหมดแล้ว ทางตำรวจจึงคุมตัวนายประยุทธ์หรือหนุ่ม ผู้ต้องหาลงจากรถไปชี้จุดที่เกิดเหตุต่างบริเวณบนบ้านชั้น 2 โดยชี้จุดที่มีปากเสียงทะเลาะกันบนบ้านชั้น2 ก่อนที่นายประยุทธ์ จะใช้มีดเดือยไก่ยาวประมาณ 3-4ซม.แทงลำตัวและแขนของ น.ส.วิจิตรพรฯหรือนาง จนมีดหัก จากนั้นนายประยุทธ์ก็ได้เปลี่ยนไปหยิบมีดพร้าที่วางพิงอยู่ข้างฝาบ้านมากระหน่ำฟันลำตัวและศีรษะบริเวรท้ายทอยนางสาววิจิตรพร ซึ่งท้ายทอยเป็นแผลเหวอะหวะตายสยองคาที่ทันที โดยศพนางสาววิจิตรพรฯได้นอนตายขวางประตูบ้าน ทำให้นายประยุทธ์ ไม่กล้าเดินข้ามศพเมีย จึงตัดสินใจถืดมีดพร้าและมีดปลายแหลมเปื้อเลือดปีนหนีออกทางหน้าต่างบ้านกระโดดดลงเดินลงไปหาที่มีบ้านอยู่ใกล้ๆกัน
ก่อนบอกนางบุญศรีแม่และนายยงพ่อว่า ได้ฆ่านางสาวนาง ตายแล้วและอยากใช้เชือกแขวนคอฆ่าตัวตายตามเมียไปด้วยและเตรียมเชือกไว้แล้ว แต่แม่และพ่อได้ห้ามปรามเอาไว้ จึงเปลี่ยนใจขี่รถจยย.ของพ่อหนีข้ามจังหวัดไปหาน้องสาวที่ค่ายทหารเสนาณรงค์หรือค่ายคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนถูกตำรวจมาดักจับกุมหน้าค่ายทหารดังกล่าว โดยแม่ให้เงินเป็นค่าหลบหนีอก2000บาทด้วย

หลังจำทำแผนเสร็จแล้ว ก่อนตำรวจจะคุมตัวนายประยุทธ์หรือหนุ่ย กลับโรงพัก นายประยุทธ์ ขอเข้ากราบเท้าแม่เพื่ออำลาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งตำรวจได้พาตัวนายประยุทธ์ เข้าไปกราบไหว้ขอโทษแม่ ทำให้นางบุญศรีฯผู้เป็นแม่ร่ำไห้และขอให้ลูกชดใช้กรรมที่ก่อไว้ กล้าทำก็ต้องกล้ารับผิด ก่อนตำรวจคุมตัวนายประยุทธ์ ไปขังสภ.สิชลเพื่อสอบสวนปากคำเพิ่มเติมและเตรียมฝากขังในวันพรุ่งนี้(12 มิ.ย.)ต่อไป.