ดื่มชาเขียวลดความอ้วนต้องระวัง!

หญิงสาวชาวไต้หวันวัย 30 กว่าป่วยเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารหลังดื่มชาเขียวตอนท้องว่างเป็นเวลา 3 เดือน

หญิงสาวคนหนึ่งในไต้หวันวัย 30 กว่าทำตาม "วิธีลดความอ้วนด้วยชาเขียว" ที่กำลังเป็นที่นิยมบนโลกออนไลน์ด้วยการดื่มชาเขียวเป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน ผลลัพธ์ที่ได้คือเธอป่วยเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหาร ระบบตับ และระบบทางเดิน เฉิงหง อธิบายว่า ชาเขียวมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยต่อต้านมะเร็งได้จริง แต่ปัญหาของผู้ป่วยรายนี้คือเธอดื่มชาเขียวตอนท้องว่าง

แพทย์ชิว เฉิงหง แชร์เรื่องราวของผู้ป่วยรายนี้ในรายการโทรทัศน์ "Health Watch" ว่า หญิงสาวคนดังกล่าวกำลังจะแต่งงานและต้องการมีรูปร่างที่สวยงามสำหรับภาพถ่ายงานแต่งงาน เธอจึงตัดสินใจลองใช้วิธีลดความอ้วนด้วยการดื่มชาเขียวตามที่เห็นในอินเทอร์เน็ต เธอสั่งชาเขียวมาเป็นลังๆ และดื่มเป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม ประมาณ 3 เดือนต่อมา เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายท้องทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เธอคิดว่าเป็นอาการท้องอืดทั่วไป แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น เธอจึงไปพบแพทย์

แพทย์ชิว เฉิงหง วินิจฉัยหลังจากตรวจร่างกายและส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารว่าผู้ป่วยมีแผลในกระเพาะอาหารประมาณ 7-8 แผล

แพทย์ชิว เฉิงหง อธิบายว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยรายนี้เป็นแผลในกระเพาะอาหารคือ การดื่มชาเขียวตอนท้องว่าง แม้ว่าชาเขียวจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยต่อต้านมะเร็ง แต่เขาแนะนำว่าไม่ควรดื่มชาเขียวตอนท้องว่างเป็นเวลานาน เนื่องจากอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้

แพทย์ชิว เฉิงหง แนะนำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มชาเขียวโดยดื่มหลังอาหาร 1 ชั่วโมง และดื่มชาเขียวในปริมาณที่พอเหมาะ

ข้อควรระวังเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดื่มชาเขียว:

• ไม่ควรดื่มชาเขียวตอนท้องว่าง
• ไม่ควรดื่มชาเขียวก่อนนอน เพราะอาจรบกวนการนอนหลับ
• ไม่ควรดื่มชาเขียวมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการใจสั่น ปวดศีรษะ และท้องเสีย
• สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มชาเขียว