ทรัมป์ เป็น ปธน.คนแรก ที่ต้องคดีอาญา
เป็นงานรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาในวันนี้ (31 พฤษภาคม 2567) ว่าคณะลูกขุน 12 คน ของศาลรัฐบาลกลางในเขตแมนฮัตตัน ของนครนิวยอร์ก มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี มีความผิดจริงตามคำฟ้องทั้ง 34 กระทง จากการปลอมแปลงข้อมูลทางการเงิน
ทั้งนี้ทางอัยการกล่าวหา ว่าอดีตผู้นำสหรัฐปกปิดข้อมูลและใช้เงินด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อเจตนากระทำการผิดกฎหมาย โดยให้นายไมเคิล โคเฮน ทนายความในเวลานั้น นำเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือเมื่อคิดเป็นเงินไทยแล้วก็ตกอยู่ที่ประมาณ 4.77 ล้านบาท เพื่อไปจ่ายให้แก่ น.ส.สตอร์มี แดเนียลส์ ซึ่งเป็นนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ เพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงเปิดโปงความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ระหว่างเธอกับทรัมป์ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปี 2559 ซึ่งทรัมป์ ที่เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันได้ชนะนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต
โดยทางผู้พิพากษาอนุญาตให้ทรัมป์ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องมีการวางหลักทรัพย์ประกันตัว และศาลอยู่ระหว่างพิจารณาหลักฐานทั้งหมดอีกครั้งอย่างละเอียด ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนการประกาศคำตัดสิน ในวันที่ 11 กรกฏาคม 2567 นี้ ซึ่งจะเป็นการชี้ชะตาว่าทรัมป์ต้องรับโทษจำคุกหรือไม่ โดยนายทรัมป์ซึ่งกลายเป็นอดีตผู้นำสหรัฐคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ต้องคำพิพากษาในคดีอาญา กล่าวว่า คำพิพากษา “เป็นคดีการเมือง” และคำตัดสินจริง คือผลการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. พร้อมทั้งยืนยันการยื่นอุทธรณ์ ส่วนทีมงานหาเสียงของไบเดนกล่าวว่า มติของคณะลูกขุนเป็นการเน้นย้ำว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายนั่นเอง นับว่าได้ถูกจาลึกเป็นประวัติศาสตร์ไปอีกคน แต่จะด้านไหนนั้นก็คงเห็นๆกันอยู่