คำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแสดงให้เห็นว่าอิสราเอล"ข้ามเส้น"ทั้งหมด

  มาฮา ฮุสไซนี(Maha Hussaini)ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ของ Euro-Med Human Rights Monitor กล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ)ถือเป็นก้าวสำคัญที่โลกเฝ้ารอมาหลายทศวรรษ ไม่ใช่แค่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ"การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"ที่เริ่มเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

  เธอให้สัมภาษณ์กับวำนักข่าวอัลจาซีรสใน Deir el-Balah ว่า "ในที่สุดนี้สังคมโลกก็จะได้รับรู้แทนที่มักจะใช้เพียงคำแถลงที่ขี้ขลาดกับการละเมิดของอิสราเอล"

  ฮุสไซนีกล่าวว่านี่เป็นการยอมรับว่า "สิ่งที่อิสราเอลกำลังทำในฉนวนกาซานั้นได้ข้ามเส้นทั้งหมดแล้ว"

  เธอเสริมว่าเป็นเวลานานหลายทศวรรษที่สังคมโลกยังคงไม่เพียงแค่ปกป้องอิสราเอลแต่ยังสนับสนุนอิสราเอลโดยจัดหาอาวุธที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

  "ชาวปาเลสไตน์สูญเสียความศรัทธาในมนุษยชาติ พวกเขาถูกทอดทิ้งและอยู่ในสภาพสังคมโลกที่ล้มเหลว นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญ"

  สำหรับท่าทีของประเทศอื่นที่มีต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือICJ มีดังนี้

  สเปนเรียกร้องให้มีดำเนินการตามคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเกี่ยวกับฉนวนกาซา

  โฮเซ่ มานูเอล อัลบาเรส(José Manuel Albares)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสเปนได้เรียกร้องให้อิสราเอลดำเนินการตามคำตัดสินที่เพิ่งประกาศโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

“มาตรการป้องกัน รวมถึงการหยุดยั้งการรุกรานของอิสราเอลในราฟาห์เป็นสิ่งที่ต่ิงบังคับ” เขากล่าวในโพสต์บน X

“เราเรียกร้องให้มีการดำเนินการ นอกจากนี้ยังขอเรียกร้องให้มีการหยุดยิง การปล่อยตัวตัวประกัน และการเข้าถึงด้านมนุษยธรรม ความทุกข์ทรมานของชาวกาซาและความรุนแรงต้องยุติลง”

โฮเซ่ มานูเอล อัลบาเรส (José Manuel Albares) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสเปนพูดคุยกับสื่อมวลชน [ภาพ:Johanna Geron/สำนักข่าวรอยเตอร์สำนักข่าวรอยเตอร์]

 

   ทางนาย ซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้กล่าวว่าแอฟริกาใต้ยินดีกับคำสั่งที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ตัดสินในวันนี้ เราเป็นห่วงอย่างมากที่อิสราเอลได้จำกัดระดับความช่วยเหลือสิ่งจำเป็นไม่ให้เข้าไปในฉนวนกาซา และควรกำหนดเป้าหมายความช่วยเหลือและโครงสร้างพื้นฐานด้านความช่วยเหลือภายในฉนวนกาซาอย่างเป็นระบบ

"ดังนั้น กรณีนี้จึงมุ่งเน้นไปที่ชาวปาเลสไตน์ที่เป็นประชาชทั่วไปในฉนวนกาซา ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับความทุกข์ทรมานเป็นเดือนที่เจ็ดจากการลงโทษหมู่สำหรับสิ่งที่พวกเขาไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ เป็นการส่วนตัว"

"แอฟริกาใต้ยังคงกังวลที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังไม่ประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งความทุกข์ทรมานของมนุษยชาติ"

  เจ้าหน้าที่ Zane Dangor ชาวแอฟริกาใต้กล่าวว่าคำตัดสินของศาล "เป็นการปฏิวัติ"

"โดยพฤตินัยแล้ว นี่คือการเรียกร้องให้หยุดยิง เป็นการสั่งให้ฝ่ายหลักในความขัดแย้งนี้ยุติการกระทำที่ก้าวร้าวต่อชาวปาเลสไตน์" เขากล่าว

"คำสั่งนี้เหมือนกับคำสั่งอื่นๆที่มีผลผูกพัน และอิสราเอลต้องปฏิบัติตาม"

 

  นายโจเซฟ บอเรล(Josep Borrell)หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่า EU จะต้องแสดงจุดยืนของตนเกี่ยวกับคำตัดสินของ ICJ

  "เราจะต้องเลือกสนับสนุนสถาบันระหว่างประเทศแห่งหลักนิติธรรมหรือสนับสนุนอิสราเอล" 

 

  กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์กล่าวว่า"อียิปต์เรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายภายในกรอบของอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและการลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และดำเนินการตามมาตรการชั่วคราวทั้งหมดที่ ICJ ออก ซึ่งถือว่ามีผลผูกพันและบังคับใช้ได้ทางกฎหมาย เนื่องจากออกโดยองค์กรตุลาการระหว่างประเทศสูงสุด

  "อียิปต์เน้นย้ำว่าอิสราเอลต้องรับผิดชอบทางกฎหมายอย่างเต็มที่ต่อสภาพมนุษยธรรมที่เสื่อมโทรมในฉนวนกาซาในฐานะผู้ยึดครอง โดยเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดนโยบายที่เป็นระบบต่อชาวปาเลสไตน์ในการกำหนดเป้าหมาย การอดอาหาร และการปิดล้อม ซึ่งละเมิดบทบัญญัติทั้งหมดของกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ"

 

  วุฒิสมาชิกสหรัฐ Lindsay Graham กล่าวว่า"สำหรับฉันแล้ว ICJ สามารถลงนรกได้แล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยืนหยัดต่อต้านองค์กรที่เรียกว่าองค์กรยุติธรรมระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับ UN อคติต่ออิสราเอลของพวกเขามีมากเกินไป

  คำตัดสินของ ICJ ที่ให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการที่จำเป็นเพื่อทำลายกองพันฆาตกรและผู้ก่อการร้ายฮามาสทั้งสี่กองพัน ซึ่งใช้ชาวปาเลสไตน์เป็นโล่มนุษย์ เป็นเรื่องไร้สาระ"

"อิสราเอลจะต้องเพิกเฉย และควรเพิกเฉย"

 

  รัฐมนตรีต่างประเทศ Hadja Lahbib แห่งเบลเยียมโพสต์บน X ว่าเบลเยียมเรียกร้องให้มีการบังคับใช้คำตัดสินของศาลโดยทันที

  "ความรุนแรงและความทุกข์ทรมานของมนุษย์ในฉนวนกาซาต้องหยุดลง เราเรียกร้องให้หยุดยิง ปล่อยตัวประกัน และเจรจาเพื่อสองรัฐ" 

 

  รัฐมนตรีต่างประเทศ Ayman Safadi แห่งจอร์แดนกล่าวว่า ICJ ได้เปิดเผยอาชญากรรมสงครามในฉนวนกาซาอีกครั้ง

"และอีกครั้งที่รัฐบาลอิสราเอลตอบโต้ด้วยการดูถูกเหยียดหยามต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาล คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องแบกรับความรับผิดชอบ ยุติการลอยนวลพ้นผิดของอิสราเอล และการใช้สองมาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ" เขากล่าวในแถลงการณ์บน X

 

  กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า"ซาอุดีอาระเบียยินดีกับคำตัดสินที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศออก โดยสั่งให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการทางทหารหรือการกระทำใดๆ ในราฟาห์ทันที ตามอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและการลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

 

  กระทรวงการต่างประเทศตุรกีกล่าวว่า"เรายินดีกับคำตัดสินชั่วคราว สั่งให้อิสราเอลหยุดการโจมตีราฟาห์ในฉนวนกาซา และเปิดประตู เมืองราฟาห์ทันทีเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

  "ไม่มีประเทศใดในโลกที่อยู่เหนือกฎหมาย เราคาดหวังว่าคำตัดสินทั้งหมดที่ศาลตัดสินจะได้รับการบังคับใช้โดยอิสราเอลอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มั่นใจในเรื่องนี้ เราขอเชิญคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้ทำหน้าที่ของตน"

 

  Council on American Islamic Relations (CAIR) หรือกลุ่มสิทธิพลเมืองอิสลามในสหรัฐฯ "ชื่นชม" คำตัดสินของ ICJ

"ขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ยังคงยืนหยัดอยู่คนเดียวในการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา สังคมโลกกำลังต่อต้านการสังหารหมู่ การอดอาหารโดยสภาพบังคับ และการล้างเผ่าพันธุ์ที่รัฐบาลขวาจัดของอิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์มากขึ้นเรื่อยๆ" CAIR กล่าวในแถลงการณ์

  "อิสราเอลพยายามอย่างชัดเจนที่จะทำให้ฉนวนกาซาไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องหยุดยั้งไม่ให้อิสราเอลบรรลุเป้าหมายที่โหดเหี้ยมนี้ ประธานาธิบดีไบเดนต้องเคารพคำตัดสินที่สำคัญนี้โดยยุติความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดไปยังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลทันที"

 

  รัฐมนตรีต่างประเทศ Espen Bathe Eide แห่งนอร์เวย์กล่าวว่า"ฉันคาดหวังให้อิสราเอลดำเนินการตามมาตรการที่ได้รับคำสั่ง การเคารพศาลและหน้าที่ของศาล รวมถึงอำนาจในการสั่งมาตรการชั่วคราว มีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างกฎหมายระหว่างประเทศและระเบียบกฎหมายระหว่างประเทศ"