ฮามาสยินดีรับคำสั่งศาลยุติธรรมโลกให้อิสราเอลหยุดโจมตีเมืองราฟาห์
ฮามาสยินดีในคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการรุกรานเมืองราฟาห์ในทันทีรวมถึงมาตรการทั้งหมดที่นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และให้นำความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ทั้งหมดของฉนวนกาซา และอนุญาตให้คณะกรรมการระหว่างประเทศเข้ามาเพื่อสอบสวนอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ฮามาสในแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ว่า "เราคาดหวังให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศออกคำตัดสินให้หยุดการรุกรานและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อประชาชนของเราในฉนวนกาซาทั้งหมด ไม่ใช่แค่ในเขตผู้ว่าการราฟาห์"
ฮามาสเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศและสหประชาชาติกดดันอิสราเอลให้ปฏิบัติตามคำตัดสินนี้ในทันที และดำเนินการด้วยวิธีการที่เห็นผลแท้จริงและจริงจังเพื่อบังคับใช้มติทั้งหมดของสหประชาชาติที่บังคับให้กองทัพยึดครองของอิสราเอลหยุดสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์มานานกว่า 7 เดือน
เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ออกคำตัดสินที่มีผลผูกพันให้อิสราเอลหยุดการโจมตีทางทหารในราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาในทันที
"อิสราเอลควรหยุดปฏิบัติการทางทหารหรือการกระทำอื่นใดในราฟาห์" นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศกล่าวระหว่างการอ่านคำตัดสินเกี่ยวกับคำร้องของแอฟริกาใต้ให้หยุดการรุกรานของอิสราเอลในฉนวนกาซา
ซาลามเน้นย้ำว่าอิสราเอลควรใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ด่านราฟาห์เปิดอยู่เสมอเพื่อนำความช่วยเหลือเข้ามาตามบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
คำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเรียกร้องให้อิสราเอลยื่นรายงานต่อศาลภายในหนึ่งเดือนเกี่ยวกับขั้นตอนที่จะดำเนินการ โดยระบุว่าอิสราเอลไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินก่อนหน้านี้ของศาล
เขาระบุว่าสภาพความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในฉนวนกาซาเสื่อมโทรมลงอย่างมาก โดยเน้นย้ำว่าสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในราฟาห์นั้นเลวร้ายหลังถูกทิ้งระเบิดเป็นเวลาหลายสัปดาห์
เขากล่าวว่ามีผู้คนประมาณ 800,000 คนต้องพลัดถิ่นจากราฟาห์นับตั้งแต่เริ่มการรุกรานทางบกเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม
ซาลามเน้นย้ำว่าอิสราเอลไม่ได้ให้ความช่วยเหลือมากพอที่จะทพให้ผู้พลัดถิ่นจากราฟาห์ได้รับความปลอดภัย
"ตามอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปฏิบัติการเพิ่มเติมใดๆ ในราฟาห์อาจนำไปสู่การทำลายล้างบางส่วนหรือทั้งหมด อิสราเอลต้องหยุดการโจมตีทางทหารในราฟาห์ในทันที"