ผู้พิชิตเอเวอเรสต์ 30 ครั้ง ทำลายสถิติตัวเอง
ข่าวนี้เป็นการรายงายของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวันนี้ (23 พฤษภาคม 2567) ว่านายคามิ ริตา เชอร์ปา วัย 54 ปี หรือที่รู้จักกันในนามเอเวอเรสต์แมน ได้พิชิตยอดเขาสูงที่สุดของโลกเป็นครั้งที่ 30 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภายในระยะเวลา 3 ทศวรรษ นับตั้งแต่การประสบความสำเร็จครั้งแรก โดยนายคามิ ริตา เชอร์ปา ผู้ทำลายสถิติของตัวเองหลังจากพิชิตยอดเขาสูง 8,849 เมตร เป็นครั้งที่ 29 เมื่อต้นเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยระบุว่า เขาเพียงแค่ทำงานและไม่ได้วางแผนจะสร้างสถิติแต่อย่างใด นายตามิ ริตา เชอร์ปา พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2537
ขณะทำงานให้กับคณะสำรวจเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ปีนเอเวอเรสต์เกือบทุกปีเพื่อนำทางลูกค้า โดยเจ้าตัวกล่าวว่า ผมมีความสุขมาก ที่การปีนเขาของผมช่วยให้เนปาลเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อปี 2566 นายคามิ ริตา เชอร์ปา ได้ปีนเอเวอเรสต์ถึง 2 ครั้ง เพื่อทวงคืนสถิติจากนายปาซัง ดาวา เชอร์ปา ผู้นำทางอีกคนหนึ่ง และมากไปกว่านั้นนายคามิ ริตา เชอร์ปา ยังสร้างสถิติพิชิตยอดเขาอีกหลายแห่ง ที่สูงถึง 8,000 เมตร รวมไปถึง เคทู ในปากีสถาน ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของนายคามิ ริตา เชอร์ปา ในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นครั้งที่ 30 เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่ทางเนปาลรายงานผู้เสียชีวิต จากการปีนเขาในฤดูกาลปัจจุบัน เพิ่มเป็นอย่างน้อย 5 รายแล้ว แบ่งเป็นชาวโรมาเนีย ชาวฝรั่งเศส ชาวเนปาล และชาวมองโกเลีย 2 ราย โดยเนปาลออกใบอนุญาตปีนเขามากกว่า 900 ใบในปีนี้ รวมถึงใบอนุญาตปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ 419 ใบ สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 182 ล้านบาท สำหรับฤดูกาลนี้ โดยมีนักปีนเขาราว 500 คนพร้อมไกด์ สามารถปีนขึ้นไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นที่เรียบร้อย ถือว่ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน