หญิงวัย 51 ถูกตัดแขนขา หลังไปหาหมอเพราะเจ็บคอ
สื่อนอกรายงานว่า "หญิงวัย 51 ปี "เชอร์รี มูดี้" จากรัฐเท็กซัส ประเทศอเมริกา ไปหาหมอหลังจากรู้สึกเจ็บคอ แล้วก็หมดสติที่โรงพยายาล แพทย์พบว่าเธอมีอาการปอดอักเสบซ้ำซ้อน [ซึ่งเป็นโรคปอดบวมในปอดทั้งสองข้าง หลังจากติดเชื้อสเตรปโธรท ซึ่งทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด] และ ความดันของเธอตกลงอย่างรวดเร็ว..."
แพทย์กล่าววว่า "สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณ มีปฏิกิริยามากเกินไป ต่อการติดเชื้อ" และ "เริ่มทำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะของร่างกาย" และ "เราพยายามใช้ยาหลายชนิด เพื่อเอาชนะการติดเชื้อ แต่มันก็ไม่สำเร็จ และ สิ่งที่ช่วยชีวิตเธอเหลือแค่ ตัดแขนขาเธอทิ้ง เพื่อกันไม่ให้เชื้อลุกลาม"
"เชอร์รี มูดี้" ใช้เวลา 4 เดือนในโรงพยาบาล ตามด้วย 1 เดือนในการกายภาพบำบัด ซึ่งเธอได้เรียนรู้วิธีปรับตัวเข้ากับ การสูญเสียแขนขาของเธอ...
"เชอร์รี มูดี้" กล่าวว่า "ตอนแรกฉันก็รู้สึกแย่นะ ที่เหมือนก้อนเนื้อก้นหนึ่ง นอนนิ่งๆอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้ฉันมีจิตใจเข้มแข็งมากแล้ว หลังจากฉันเปิดใจและกายภาพบำบัด" และ "ฉันแค่เลือกที่จะมีความสุข ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้สึกเสียใจกับมันนะ บางครั้งบางคราวฉันร้องไห้ เพื่อปล่อยความทุกข์ให้หายไป ฉันจะไปยอมจมอยู่กับความทุกข์แน่นอน!!"
สามีของ "เชอร์รี มูดี้" กล่าวว่า "เธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมาก"
"เชอร์รี มูดี้" กล่าวเสริมว่า "นี่คือสิ่งที่ยากที่สุด ที่ฉันเคยเจอมาในชีวิต..."
ที่มา: https://www.ladbible.com/news/health/sherri-moody-sepsis-sore-throat-439588-20240227
















