"เซ็นโตะ" และ "ออนเซ็น" แตกต่างกันอย่างไร?
วัฒนธรรมการอาบน้ำร้อน ที่มีอายุหลายศตวรรษของญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเนื่องจากอิทธิพลต่างๆ เช่น น้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศ การสังเกตถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของการอาบน้ำ ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และ ความเชื่อจากลัทธิชินโต และ พุทธศาสนา ซึ่งเชื่อมโยงกับการอาบน้ำ เพื่อทำความสะอาดร่างกายและจิตใจ ซึ่งยิ่งอาบมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งจะได้รับบุญมากเท่านั้น...
ในญี่ปุ่นยุคใหม่ การอาบน้ำร้อนเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน ซึ่งภาษาญี่ปุ่นมีคำศัพท์หลายคำ เพื่ออธิบายถึงประสบการณ์การอาบน้ำ โดย "เซนโต" [ห้องอาบน้ำสาธารณะ] และ " ออนเซ็น" [น้ำพุร้อน] เป็น 2 ตัวอย่างที่อธิบายถึงห้องอาบน้ำรวมแบบดั้งเดิม ถึงแม้ว่าเซนโตะและออนเซ็นจะคล้ายกัน แต่แต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันออกไป และ หากคุณต้องการสัมผัส วัฒนธรรมการอาบน้ำของญี่ปุ่น นี่คือข้อมูลพื้นฐานที่คุณควรรู้ล่วงหน้า...
"ออนเซ็น" ในญี่ปุ่น มีกฎหมายที่เข้มงวด ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติน้ำพุร้อน เพื่อให้ออนเซ็นถูกกฎหมาย และเรียกว่าออนเซ็นได้นั้น จะต้องมีน้ำร้อนสูงถึง 25 องศาเซลเซียส และ มีแร่ธาตุตามที่ระบุเอาไว้ในบัญญัติ
หากออนเซ็นอยู่กลางป่ากลางเขา ซึ่งจะตรงตามเงื่อนไข ออนเซ็นนั้นจะถูกเรียกว่า "เทนเนนออนเซ็น" [ออนเซ็นธรรมชาติ] ซึ่งจะแตกต่างจาก "ออนเซ็นทั่วไป" ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า "จินโกะออนเซ็น" [ออนเซ็นที่มนุษย์สร้างขึ้น]
"เซ็นโต" ไม่จำเป็นต้องมีแร่ธาตุ และ ไม่จำเป็นที่น้ำร้อนถึงอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส...
ตั้งแต่สมัยเฮอัน ช่วงปี 794–1185 "เซ็นโต" ทำหน้าที่เป็นเพียงสถานที่อาบน้ำ และ พบปะสังสรรค์ของชุมชน ซึ่งเซ็นโตยังคงมีอยู่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากขาดสิ่งอำนวยความสะดวก ในการอาบน้ำในบ้านหลายหลัง ในช่วงเวลานั้น...
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการอาบน้ำส่วนตัวในบ้าน กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว จำนวนเซ็นโตะจึงลดน้อยลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม กฎหมายอย่างเช่น "พระราชบัญญัติโรงอาบน้ำสาธารณะ ยอมรับอย่างเป็นทางการว่า "เซ็นโตะ" ยังคงมีความจำเป็นอยู่ เพราะมันดีต่อสุขภาพและสุขอนามัยของชุมชน" ซึ่งนั่นทำให้ "เซ็นโตะ" ได้รับการยอมรับ ซึ่งยังมีหลายแห่งยังคงเปิดให้บริการอยู่เหมือนเดิม
แต่ในทางตรงกันข้าม "ออนเซ็น" มักจะเป็นจุดหมายปลายทาง สำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลายเป็นหลัก โดยทั่วไปแล้วผู้มาเยือนมักจะแช่ออนเซ็น แล้วกลับห้องมากินอาหารอร่อย ก่อนนอนหลับอย่างสบาย...
พระราชบัญญัติโรงอาบน้ำสาธารณะ ไม่ได้ควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ [อาหารและที่พัก] โดย "ออนเซ็น" จะมีห้องแยกให้ผู้คนนอนในห้องนั้นๆ แต่ "เซ็นโด" ก็เป็นแค่ที่อาบน้ำ ไม่มีห้องพักแต่อย่างใด...
"ทามายุ" ในจังหวัดชิมาเนะ มีย่านใกล้เคียงที่มีรีสอร์ทหลายแห่ง โดยแต่ละแห่งจะมี "ออนเซ็น" โดยคนญี่ปุ่นเรียกออนเซ็นแบบนี้รวมกันว่า "ทามัตสึคุริออนเซ็น" นั่นเอง...