เดินป่า ท้าลมหนาว บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่กรมอุทยานภูมิใจนำเสนอ

เอาใจสายลุยที่ชื่นชอบการเดินป่า หลงรักธรรมชาติแบบสุดๆ ด้วย 4 อุทยานแห่งชาติ ที่ #กรมอุทยานฯ แนะนำ ให้เป็นจุด #เที่ยวอุทยานฯ ที่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สวยงามที่สุด อุดมสมบูรณ์ที่สุด และมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สุด มาให้ทุกคนพิจารณา จัดทริปออกไปท่องเที่ยว ฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในฤดูท่องเที่ยว #ThailandWinterFestival ปีนี้

1 ] ยอดเขาโมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร

ยอดเขาโมโกจู เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และสูงที่สุดในกลุ่มผืนป่าตะวันตก (Western Forest Complex) โดยคำว่า “โมโกจู” เป็นภาษากระเหรี่ยง แปลว่า “คล้ายว่าฝนจะตก” เนื่องจากบนยอดเขา มีเมฆหมอกปกคลุมหนามากแทบตลอดเวลา

การเดินป่า พิชิตยอดเขาโมโกจูนั้นเป็นการเดินป่าระยะไกล (Trekking Trail) ต้องเดินเท้าระยะทางไป-กลับ 64 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางและตั้งแคมป์พักแรมในป่า 5 วัน 4 คืน

เส้นทางจะเป็นทางราบ สลับทางชันถึงชันมาก มีความลำบากตั้งแต่เริ่มต้นเดินทาง ต้องใช้ความอดทนสูง เป็นเส้นทางเดินป่าที่มีความท้าทายมากๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าตัวจริง เนื่องจากต้องอาศัยทั้งใจรัก ทักษะ ความพร้อมของร่างกายและจิตใจ

ไฮไลท์ที่ดึงดูดให้นักเดินป่าจากทั่วประเทศ อยากมาเดินป่าที่นี่สักครั้งในชีวิตให้ได้ ก็คือ ทิวทัศน์ของหมอกหนาที่ปกคลุมทั่วบริเวณป่าตะวันตก ไกลสุดลูกหูลูกตา และหากวันไหนโชคดี ท้องฟ้าเปิด นักเดินป่าจะได้เห็นทางช้างเผือกบนท้องฟ้าอย่างใกล้ชิด อีกทั้งระหว่างเส้นทาง ยังสามารถพบเห็น รอยตีนเสือโคร่ง ช้างป่า กระทิง กวางป่า นกเงือก และนกกกฝูงใหญ่ ได้อีกด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ จะต้องติดตามข่าวสารจากกรมอุทยานฯ เพราะจะมีการเปิดรับสมัครคัดเลือกนักเดินป่า เป็นจำนวนจำกัด ในแต่ละปี และมีคุณสมบัติเบื้องต้น คือ

อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แต่ไม่เกิน 55 ปี (กรณีอายุเกิน 55 ปี ต้องทำหนังสือ/บันทึกรับรอง โดยจะพิจารณาเป็นรายกรณี)

สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินป่า เช่น โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคมะเร็ง โรคติดต่อ ฯลฯ

มีประสบการณ์ในการเดินป่าระยะไกลอย่างน้อย 1 ครั้ง พร้อมแนบหลักฐาน เช่น เกียรติบัตร รูปถ่าย (หากผ่านหลักสูตรโรงเรียนนักเดินป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา หรืออื่นๆ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)

สามารถสมัครได้ ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม โดยมีค่าใช้จ่ายในการสมัคร 2,500 บาท/ทริป/คน รวมค่าอาหาร 13 มื้อ และค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วยแล้ว

เครดิตรูป : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

2 ] ผานารายณ์ อุทยานแห่งขาติรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย

ผานารายณ์ ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติรามคำแหง หรือ เขาหลวงสุโขทัย ที่ตำบลศรีคีรีมาศ อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก ที่สวยที่สุดของจังหวัดสุโขทัย บริเวณบนหน้าผามีความสูงชัน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ รอบเขาของจังหวัดสุโขทัย และเห็นไปจนถึงจังหวัดพิษณุโลกได้

ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ของยอดเขานารายณ์ หรือ ผานารายณ์ จะเป็นยอดเขาทั้งหมด 4 ยอดด้วยกัน ซึ่งตั้งอยู่บนยอดใหญ่เดียวกันอีกที มีทางเดินเชื่อมต่อถึงกันได้ โดยยอดเขาแต่ละลูก ก็จะสามารถชมวิวได้ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นไปจนถึงพระอาทิตย์ตก

สภาพอากาศบนยอดเขา จะหนาวเย็นตลอดปี และมีเมฆหมอกปกคลุมมากในฤดูหนาวและฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยโดยประมาณ 12-14 องศาเซลเซียส โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การไปเดินป่า จะอยู่ในช่วงประมาณเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์

ด้วยระยะการเดินทางที่ไม่ไกลมาก ราว 3.7 กิโลเมตร ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 เมตร ใช้ระยะเวลาการเดินทางเท้าราว 4 ชั่วโมง ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว

เครดิตรูป : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

3 ] ลานหินปุ่ม อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

ลานหินปุ่ม ภูหินร่องกล้า อยู่ที่ความสูง 1,262 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดหมายปลายทางของ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลานหินปุ่ม-ผาชูธง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ไปประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้า เพียง 2 ชั่วโทง เท่านั้น

ลานหินปุ่มมีลักษณะเป็นลานบนหน้าผา พื้นที่โดยรอบบริเวณ มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มปมขนาดไล่เลี่ยกัน สวยงามแปลกตาเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติโดยรอบเป็นพื้นที่ป่าที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ

สภาพอากาศบนลานหินปุ่ม หนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ย ประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส และในช่วงหน้าหนาว อาจลดต่ำได้ถึง 4 องศาเลยทีเดียว

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 300 บาท

เครดิตรูป : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

4 ] เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

เขาช้างเผือก อยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลปิล๊อก ลักษณะเป็นภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายช้างหมอบ ความสูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยในหนึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยว กิจกรรมการเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะไกล ได้ครั้งเดียว ช่วงระหว่าง เดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์

เส้นทางการเดินป่า มีระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าทั้งหมด 6 ชั่วโมง เส้นทางมีความลำบาก จำเป็นต้องพักค้างแรม กางเต็นท์บนยอดเขาหนึ่งคืน ซึ่งข้อดีของที่นี่คือมีบริการลูกหาบให้ด้วย ซึ่งนอกจากลูกหาบจะคอยช่วยนักทอ่งเที่ยวแบกสัมภาระแล้ว เหล่าลูกหาบยังป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งแคมป์ และกางเต็นท์ด้วย เหมาะสำหรับนักเดินป่ามือใหม่ สามารถไปสัมผัสธรรมชาติที่นี่ได้แบบสบายใจ หายห่วง

สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำ ก็คือที่ช้างเผือกแห่งนี้ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์ หรือร้านค้าต่างๆ ดังนั้น นักเดินป่าที่จะมาที่นี้ นอกจากต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมแล้ว. ต้องเตรียมใจพร้อมที่จะตัดขาดจากโลกโซเชียลให้ได้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 วันด้วย

เครดิตรูป : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช