แม่บ้านหอพัก เผย! หนุ่มเมาทุบห้องนิสิต ป.เอก..ถูกสั่งย้ายออกแล้ว
เรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นที่สังคมต่างให้ความสนใจ และติดตามกันมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีนิสิตสาว ป.เอก พลัดตกลงมาจากชั้น 6 จนเสียชีวิต เหตุเพราะมีหนุ่มเมามาอาละวาดผิดห้อง ล่าสุดนั้น ทางแม่บ้านหอพักเผยชายคนดังกล่าวเป็นแค่ผู้เช่า ไม่ใช่เจ้าของหอ ได้สั่งย้ายออกแล้ว เพราะเป็นบุคคลอันตราย
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา ทางทีมงานเพจ "สายไหมต้องรอด" ได้พา "นายสมชาย สีชำนาญ" อายุ 60 ปี พ่อของผู้ตาย เดินทางมาที่แมนชั่นดังกล่าว ในซอยลาดปลาเค้า 3 ซึ่งก็เป็นที่เกิดเหตุ กรณีที่มีนิสิตสาวปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถูกสามีผู้จัดการแมนชั่นทำการทุบประตู และส่งเสียงโวยวายกลางดึกเนื่องจากมีอาการมึนเมา จนทำให้ทางนิสิตสาวตกใจกลัว ทำการปีนระเบียงห้องหนี ก่อนที่จะพลัดตกตึก 6 ชั้น เสียชีวิต เมื่อมีการติดต่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางผู้จัดการตึก แต่กลับไม่พบผู้ใดเลย ทั้งนี้ทางแมนชั่นก็ยังคงเก็บรวบรวมเศษกระเบื้องหลังคาที่ร่วงแตกจากคืนวันเกิดเหตุ ใส่ถังสีพลาสติกไปไว้ที่หน้าทางเข้า
นายสมชาย ได้กล่าวว่า นานๆ ที ตนเองจะได้ติดต่อกับลูกสาว แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยเล่าว่า ที่แมนชั่นแห่งนี้มีปัญหาอะไร ยอมรับว่าพอมาถึงที่นี่แล้ว กลับไม่พบผู้ใดเลย ก็รู้สึกหดหู่และเสียใจ โดยตนนั้นเพิ่งมาที่หอพักนี้เป็นครั้งแรก ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า ลูกคงจะกลัวมากจนสติหลุด เพราะลูกเป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว และตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ก็ยังไม่มีใครติดต่อมา หากได้พูดคุยกับทางคนก่อเหตุก็อยากจะรู้ว่า เจตนาแรกที่ตั้งใจจะขึ้นมาถึงห้องนั้นคืออะไรกันแน่ คิดว่าเรื่องจอดรถทับที่ตัวเอง และไปเคาะผิดห้องนั้นคงเป็นแค่ข้ออ้าง อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่า ทำไมระเบียงห้องจึงไม่ติดลูกกรง เพื่อความปลอดภัย
นางสา แม่บ้านประจำตึก ได้กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นแค่ผู้มาเช่าอาศัย ไม่ใช่สามีผู้จัดการอาคารตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ตอนนี้ทางเจ้าตัวรู้สึกสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับร้องไห้ และได้ไปจุดธูปขอขมาในเช้าวันถัดมา หลังจากเกิดเรื่อง ทางเจ้าของอาคารก็ได้สั่งให้ย้ายออกทันที ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือให้หลบหนี แต่เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย
อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนอารมณ์รุนแรงแบบนี้ แต่คงเป็นเพราะมึนเมามาก จนเกิดเรื่องนี้ขึ้น โดยตอนที่เขาได้โทรศัพท์มาหาตน ก็ไม่คิดเลยว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ ตนก็เพียงแค่บอกรูปพรรณสันฐานของรถไปเท่านั้น และไม่ได้บอกเลขทะเบียนอะไรไป ทั้งนี้ ทางฝ่ายอาคารก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะช่วยเหลือเยียวยาด้านค่าทำศพให้ ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ยืนยันว่ามีครบถ้วนและก็ได้มอบให้ทางตำรวจไปหมดแล้ว
ตามรายงานแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้เข้าสอบปากคำชายคนที่อาละวาดแล้ว ทราบเรื่องว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ชายผู้ก่อเหตุนั้นกลับมาจากทำงาน แล้วจะจอดรถจักรยานยนต์ในที่ของตัวเองหน้าแมนชั่น แต่ก็มีผู้อื่นมาจอดรถทับที่ของตัวเองไว้ คนก่อเหตุก็เลยสอบถามไปยังแม่บ้านประจำตึก แต่แม่บ้านดันบอกเบอร์ห้องผิด ทำให้ชายคนดังกล่าวได้ขึ้นไปอาละวาด เบื้องต้นทางตำรวจก็ได้แจ้งข้อหาบุกรุกยามวิกาล และส่งเสียงดังทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว