ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยชี้แจง:กรณีน้ำท่วมปางช้างเชียงใหม่
เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ปางช้างของคุณเล็ก แสงเดือนในจังหวัดเชียงใหม่ถูกน้ำท่วม โดยในปางช้างนอกจากช้างแล้วยังมีสัตว์อื่นมากมาย การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากและมีช้างเสียชีวิตจำนวน 2 เชือก โดยได้โพสต์ข้อความดังนี้
.
บันทึกเตือนความจำ
ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่
กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก)
เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง
คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น
เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ
ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย
คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม
การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้
โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง
ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย
หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น.
ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ
โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า
วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป
สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก
วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ
แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน
ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง
.
ภายใต้โพสต์มีผู้มาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่น
.
"ขอบคุณกำลังดีๆ จาก คชบาล ที่ช่วยทุกภาคส่วนทั่วไทยมาตลอด ขอเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนด้วยนะคะ"
.
"ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุก ๆทีมที่เข้ามาช่วยกันร่วมแรงรวมใจช่วยกัน และขอบคุณที่อธิบายในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นให้เข้าใจสถานการณ์ มีประโยชน์มากต่อการรับรู้ ข่าวสาร ภัยธรรมชาติ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิด สถานการณ์นี้นำมาถอดเป็นบทเรียน เตรียมแผนเพื่อป้องกันเหตุและแก้ไขสถานการณ์ได่อย่างรวดเร็วในครั้งต่อๆไป ภัยธรรมชาติ ไว้ใจและประมาทไม่ได้เลยจริง มันเหนือการควบคุม ขอบคุณคุณภัทร ผู้ใหญ่ทุกท่าน ทีมงานแพทย์ ทีมควาญ และทุกๆทีมที่ไม่ได้เอ่ยถึง ทุกคน ขอบคุณมาก ๆค่ะที่ไม่ถอดใจ ไม่ทอดทิ้งกัน ไม่มีคำใดกล่าวได้เหมาะสมเท่ากับ "ขอบคุณมากๆ"จากใจ และดีใจที่ทุกคนและสัตว์ที่รอดปลอดภัยกัน ดีที่สุดแล้วค่ะ"
.
"ขอบคุณที่อธิบายให้เข้าใจในสถานการณ์ค่ะ มีประโยชน์ต่อการรับรู้ ติดตามข่าวอย่างมาก หายสงสัยหลายเรื่อง แม้จะยังสงสัยในบางเรื่อง แต่เชื่อว่า ความจริงจะค่อยๆ กระจ่างมาทีละน้อย ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้าช่วยเหลือสัตว์ทุกตัวที่แม้จะถูกเลี้ยงเพื่อการท่องเที่ยว (ตามที่ผู้หญิงคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อ ออกอากาศเมื่อช่วงค่ำ) แต่เราก็เห็นว่าสัตว์ทั้งหมดสำคัญมากกว่าเป็นแค่สิ่งหนึ่งในธุรกิจท่องเที่ยว เขาคือชีวิตอีกชีวิตที่ควรต้องได้รับการช่วยเหลือ ให้ปลอดภัย เห็นถึงพลังความสามัคคีของคนไทยในยามเกิดปัญหาต่างๆ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ขอบคุณค่ะ"
.
"ส่วนตัวแล้วไม่มีความคิดต่อต้านทั้งการใช้อุปกรณ์หรือการปล่อยอิสระเย็นก็เรียกเข้าคอก แต่จากเหตุการ์ณในครั้งนี้ทำให้เลือกข้างได้เลยว่าถ้าใครเลือกจะเลี้ยงช้างแบบปล่อยอิสระ ก็ควรมีการฝึกฝนให้ช้างสามารถทำตามคำสั่งคนดูแลได้ในกรณีที่ต้องเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน หรือเกิดเหตุภัยธรรมชาติแบบนี้ช้างเลี้ยงเค้าไปไม่เป็น เอาตัวเองไม่รอด มันอันตรายกับตัวช้างมากๆ อย่างกรณีน้ำท่วมครั้งนี้เห็นคลิป คนพยายามเอาไม้พายดักหน้าช้างที่กำลังว่ายน้ำด้วยความตกใจ ได้ยินคนตะโกนเอาของที่ช้างเคยชอบเคยหลอกล่อเค้าได้ เค้าไม่สนใจเลย ลอยผ่านเรือลำนั่นไป ถ้าไม่มีเรืออีกลำเข้ามาประกบช้าง ไม่รู้จุดจบจะเป็นแบบไหน และที่สะเทือนใจที่สุดคือ ช้างพลาย7เชือกที่เจ้าของตัดใจให้ต้องลุ้นเอาว่าช้างจะรอดหรือร่วง เพราะช้างไม่เคยถูกฝึกถูกสอนการสื่อสารกับคน โชคดีที่น้ำลดเร็วถ้าน้ำมาแบบเชียงราย เราทุกคนคนได้เห็นภาพที่เศร้าใจกันมากกว่านี้ ถ้าปรับแล้วดีกับช้างก็ปรับเถิดนะคะ เอาเหตุการ์ณครั้งนี้มาเป็นบทเรียน อย่าให้2พังต้องล้มไปเปล่าๆ"