กัน จอมพลัง ไม่รอช้า บุกช่วยเหลือ 5 พี่น้อง ถูกแม่ทิ้งใช้ชีวิตในห้างอย่างรันทด

               กัน จอมพลัง พร้อมด้วยตำรวจ สน. บางแขน และเจ้าหน้าที่กรมกิจการบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ

และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับร้องเรียนว่า มีเด็ก 5 คน ถูกทิ้งให้อยู่ในห้างทั้งวัน

มา 3 เดือนแล้ว จึงเดินทางไปห้างแห่งหนึ่ง บริเวณพื้นที่ว่างฟู๊ดคอร์ท และได้พบกับเด็ก 5 คน

ซึ่งทั้ง 5 คนนี้เป็นพี่น้องกัน เด็กโตสุด อายุ 12 ปี คนรอง 10 ปี ทำหน้าที่เลี้ยงน้อง ๆ 

อายุ 8 ปี และ 2 ปี และคนเล็กสุดเพียง 1 ปี เท่านั้น บริเวณดังกล่าวได้พบข้าวของเครื่องใช้ เช่น

ผ้าเช็ดตัวปูพื้น ของใช้ประจำตัวเด็ก แพมเพิส เสื้อผ้า และนม พร้อมกับเงินเพียง 40 บาท

ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ใช้ตลอดทั้งวัน

              เด็กทั้งหมดนี้ไม่ได้เรียนหนังาือ น้องคนเล็กวัย 1 ขวบ กินน้ำเปล่าแทนนม

พ่อค้าแม่ค้าในห้างเห็นแล้วสงสารเป็นอย่างมาก ต่างช่วยคนละเล็กละน้อย

ให้ข้าวให้ขนมและหาหนังสือมาให้อ่าน พี่สาวคนโต อายุ 12 ปี เล่าว่า 

อยากกลับไปเรียนต่อ ปัจจุบันจบ ป. 6 แต่แม่บอกว่าให้ช่วยเลี้ยงน้องก่อน

และขอเวลาเก็บเงิน 1 ปี แล้วจะให้กลับไปเรียนหนังสือต่อ 

                 ขณะที่แม่ของเด็ก บอกว่า ตนทำงานเป็นพนักงานร้านเสริมสวยรายได้วันละ 320 บาท

อยู่ข้าง ๆ ห้างสรรพสินค้า ส่วนสามีตกงานได้ 2 สัปดาห์แล้ว และอยู่ในช่วงกำลังหางาน

เลยต้องนำลูกมาไว้ที่ห้าง เนื่องจากใกล้ที่ทำงาน เป็นที่สาธารณะ และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรถชน 

เกิดอุบัติเหตุ และตนได้ให้เงินลูก ๆ ไว้ใช้วันละ 40-60 บาท ในช่วงตอนกลางวันจะสลับกับสามี

นำอาหารมาให้ลูก ๆ 

               ส่วนปู่กับย่าของเด็ก ทำอาชีพขายอาหารตามสั่ง ซึ่งในพักหลัง ๆ มานี้ก็ขายได้ไม่ดี

และไม่สามารถนำหลาน ๆ มาเลี้ยงไว้ที่ร้านได้ เนื่องจากร้านมีขนาดเล็ก และมีรถสัญจรเข้าออกเป็นประจำ

เกรงว่าหลานจะถูกรถชน ทำให้ต้องส่งหลานมาอยู่ที่ห้าง ตอนเช้าจะสลับกันทำอาหารมาให้

ถ้าหลาน ๆ หิวก็จะเดินออกมาขอกินข้าว แต่บางครั้งบางทีก็ต้องอด เนื่องจากปู่กับย่าไม่มีเงิน

ไม่มีวัตถุดิบจะทำให้หลานกิน พ่อกับแม่ของเด็ก ๆ นั้น มีนิสัยไม่อดทนต่องาน

มีอะไรไม่ถูกใจก็จะลาออกทันทีปัจจุบันก็ยังหางานทำไม่ได้เลย รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่จะมีคนรับหลาน ๆ ไปดูแล

               ด้านนายนริสสร แสงแก้ว สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางเขน เผนว่า ตอนนี้ทาง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พูดคุยตกลงกับพ่อแม่ของเด็กแล้ว 

และเบื้องต้นเด็ก 5 คน จะถูกรับไปเลี้ยงดูก่อน เมื่อพ่อแม่เด็กมีรายได้ที่มั่นคงแล้ว ก็สามารถมารับลูก

กลับไปเลี้ยงได้ตามเดิม