ผ่าพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตาย วาฬเบลน์วิลล์เกยตื้นที่สงขลา เมื่อ 4 วันก่อน
วาฬเบลน์วิลล์เป็นวาฬหายากมากอีกชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ในทะเลเปิดในหลายพื้นที่อยู่ในเขตน้ำลึกระดับ 200-1,000 เมตร อยู่รวมกันเป็นฝูง แต่ละฝูงจะมีตัวผู้พียงตัวเดียวเท่านั้นแต่จะมีตัวเมียหลายตัว โดยตัวที่โตเต็มวัยอาจจะมีขนาดใหญ่เกือบ 5 เมตร และมีน้ำตัวประมาณ 1 ตัน ในไทยพบเกยตื้นตัวแรกเมื่อ 12 ปีก่อนที่จ.ภูเก็ต และตัวนี้เกยตื้นเป็นตัวที่สองที่ชายหาดปากบางสะกอม อ.เทพา จ.สงขลา
ทีมสัตวแพทย์ผ่าซากวาฬเบลน์วิลล์ เพศเมีย ความยาว 4 เมตร หนักกว่า 500 กิโลกรัม ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดปากบาง-สะกอม หมู่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ และในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) ได้ทำเคลื่อนย้ายวาฬเบลน์วิลล์จากชายหาดปากบางสะกอมไปดูแลรักษาอาการต่อที่อาคารปฏิบัติการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 3 ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสัตว์น้ำชายฝั่ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา
เมื่อเวลา 07.00 น. วาฬเบลน์วิลล์มีการหายใจเป็นปกติ มีอาการกระสับกระส่าย ทีมผู้ดูแลพาเดินแต่ไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด เริ่มมีการสะบัดหางแรงจึงให้ยาซึมและยากันช็อกพร้อมทั้ง กระตุ้นหัวใจให้สารน้ำทางเส้นเลือดและพยายามสอดท่อช่วยหายใจ จนกระทั่งเวลา 08.07 น.ไม่พบสัญญาณชีพ สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตของวาฬเบลน์วิลล์ตัวนี้ไว้ได้ หลังจากที่ทีมสัตวแพทย์ได้ดูแลรักษาอย่างเต็มที่ตลอด 4 วัน
นายสัตวแพทย์รัตนกรา สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างกล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันนี้วาฬเบลน์วิลล์ มีอาการช็อกก่อนให้อาหารจึงฉีดยาอะดรีนาลีนแต่ไม่มีการตอบสนองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นได้ทำการผ่าชันสูตรซากดูรอยโรคทั้งอวัยวะภายในและภายนอกพร้อมทั้งส่งชิ้นเนื้อไปตรวจว่ามีลักษณะทางพยาธิสภาพเป็นอย่างไรแต่ในขณะยังไม่สามารถระบุสาเหตุขอการตายของวาฬเบลน์วิลล์ ได้ว่ามาจากสาเหตุใด